24 เมษายน 2566 : นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.39 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่าย 89.70 ล้านบาท โดยบริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วในปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 32.20 ล้านบาท ดังนั้น คงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายจากกำไรสุทธิ ประจำปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 57.50 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันพุธที่ 17 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2566
“จากผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา TQR สามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ และสามารถทำรายได้และกำไรได้ดี สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณที่ให้ความเชื่อมั่นในทีมผู้บริหารในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นในการบริหารงานอย่างเต็มศักยภาพเพื่อไปสู่ผลงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องได้” นายชนะพันธุ์กล่าว
นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 ยังมีทิศทางที่ดี เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินได้ตามปกติ ผู้บริโภคมีความต้องการทำประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับบริษัทฯ ได้ร่วมกับบริษัทประกัน คิดค้น พัฒนาประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ทันกับความต้องการในปัจจุบัน ทั้งการประกันภัยไซเบอร์
การประกันที่เกี่ยวข้องกับกระแสของ Environmental, Social and Governance : ESG การประกันที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือกรูปแบบใหม่ รวมถึง คาร์บอนเครดิต รวมทั้งการประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ขณะเดียวกันผู้บริโภคมีความต้องการทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ การประกันอุบัติเหตุผู้สูงอายุ ซึ่ง TQR อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตการเป็นนายหน้าประกันภัยต่อสำหรับประกันชีวิต
“การที่บริษัทฯ ได้ Synergy กับบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) (TQM) เพื่อร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวกับ การท่องเที่ยว ที่อยู่อาศัยและสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งเป็นการเสริมกำลังทำให้ TQR มีความแข็งแกร่งมากขึ้น” นางยุพเรศกล่าว
สำหรับธุรกิจให้บริการ (Service) ของ บริษัท อาร์สแควร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วจำนวน 3 ราย และในปีนี้ตั้งเป้าหมายการมีลูกค้าเพิ่มอีก 2-3 ราย
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเข้าศึกษาธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เพื่อเข้าลงทุนในรูปแบบการทำ M&A กับบริษัทที่มีผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง คาดว่า จะเห็นความชัดเจน 1-2 ราย ภายในครึ่งปีแรกของปี 66 จึงมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโต 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง