2 ธันวาคม 2559 : นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวถึงการเปิดตัวโครงการ “บ้านขุนสมุทรจีน ปราการด่านสุดท้ายแห่งการอนุรักษ์” ว่า โครงการดังกล่าวฯ เป็นหนึ่งในการสนับสนุนชุมชนที่สำคัญ “โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข” ของไปรษณีย์ไทยซึ่งได้น้อมนำแนวพระราชดำริหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางในการดำเนินงานรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อพัฒนาศักยภาพส่งเสริมและสนับสนุนของชุมชนท้องถิ่น ด้วยการใช้เครือข่ายของไปรษณีย์ไทยที่ครอบคลุมเข้าถึงชุมชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนโดยเน้นพื้นฐานความต้องการของชุมชนภายใต้แนวคิดการพัฒนา 3 หลัก ได้แก่
การพัฒนาทัศนคติด้วยการกระตุ้นให้ชุมชนคิดและทำด้วยตนเอง การพัฒนาความรู้ที่จำเป็นต่อการพัฒนาชุมชน การพัฒนาการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบเพื่อให้การตัดสินในการดำเนินงานเป็นไปอย่างมีแบบแผน โดยไปรษณีย์ไทยมีบทบาทในการให้คำแนะนำ เพื่อให้ทุกคนในชุมชนเกิดความภูมิใจในผลงานของตนเอง นำไปสู่การพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
นางสมร กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการ“บ้านขุนสมุทรจีน ปราการด่านสุดท้ายแห่งการอนุรักษ์” จ.สมุทรปราการ นั้น เกิดขึ้นจากการเล็งเห็นถึงความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนที่ยืนหยัดต่อสู้กับพลังธรรมชาติแห่งท้องทะเลด้วยการปลูกป่าชายเลนมานานหลายทศวรรษไปรษณีย์ไทยจึงได้ริเริ่มโครงการดังกล่าว โดยร่วมกันหาแนวทางการพัฒนาชุมชนจากแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พร้อมสนับสนุนผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนจากกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรคลองยายหลีเข้าร่วมโครงการฯ ได้แก่ กุ้งแห้ง กุ้งอบ และกุ้งอบสามรส
ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่คัดเลือกมานั้น ไปรษณีย์ไทยจะประสานงานให้คำปรึกษาแนะนำการพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้สวยงามเพื่อนำออกสู่ตลาด และในเบื้องต้นได้นำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาวางจำหน่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 20 แห่ง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อาทิ ปณ.พระสมุทรเจดีย์ ปณ.พระประแดง ปณ.สมุทรปราการ และ ปณ.ภาษีเจริญ เป็นต้นพร้อมเตรียมนำสินค้าที่ได้รับการพัฒนาเข้าระบบ “อร่อยทั่วไทย สั่งได้ที่ไปรษณีย์” เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มเกษตรกรเพิ่มขึ้นในรูปแบบอีคอมเมิร์ซ รวมทั้งเป็นการส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาให้ชุมชนเติบโตแข็งแรง พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
นอกจากการสนับสนุนและปรับโฉมผลิตภัณฑ์ของชุมชนเพื่อออกสู่ตลาดแล้ว ไปรษณีย์ไทยยังได้ดำเนินการประสานความร่วมมือกับชุมชนในการออกแบบและปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม พร้อมร่วมกันหาแนวทางรักษาผืนดินไว้ โดยเบื้องต้นได้ดำเนินการปลูกป่าไผ่รวมกับป่าชายเลนเพื่อยึดพื้นดินไว้จากการถูกน้ำทะเลกัดเซาะ และทำการฟื้นฟูธรรมชาติให้สมบูรณ์เพื่อสามารถสร้างชุมชนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติรวมไปถึงการสนับสนุนให้มีการจัดตั้งตู้ไปรษณีย์แลนด์มาร์ค พร้อมจัดทำโปสการ์ดภาพสถานที่ต่างๆ ในชุมชนสำหรับนักท่องเที่ยวสามารถเขียนและส่งได้ทันที ทั้งนี้รายได้ที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบไปรษณีย์และธุรกิจท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งจะนำไปพัฒนาสิ่งแวดล้อมชายฝั่งและลดการกัดเซาะของน้ำทะเลต่อไป
สำหรับในปี 2559 ไปรษณีย์ไทยดำเนินโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุขไปแล้วหลายพื้นที่ ได้แก่ โครงการข้าวฮางบ้านกุดจิก กินดีอยู่ดี จังหวัดสกลนคร โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข วิถีชุมชน คนตีมีดอรัญญิกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โครงการเที่ยวสวนผึ้งบึ่งไปไปรษณีย์ จังหวัดราชบุรี โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข ประชารัฐเข้มแข็ง แห่งเมืองสองแควจังหวัดพิษณุโลกและล่าสุดคือโครงการบ้านขุนสมุทรจีน ปราการด่านสุดท้ายแห่งการอนุรักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทยยังคงมุ่งมั่นในการสานต่อโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข โดยตั้งเป้าขยายโครงการไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
ซึ่งในปี 2560 ไปรษณีย์ไทยมีแผนที่จะดำเนินโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข อาทิ โครงการ “พัฒนาผลิตภัณฑ์ลำไยอบแห้ง ชุมชนสหกรณ์การเกษตรประตูป่า” จังหวัดลำพูน และโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นต้น เพื่อเป็นเครือข่ายส่งต่อความสุขจากชุมชนท้องถิ่นสู่คนไทย มุ่งสู่การเป็นผู้นำในการเชื่อมโยงสังคมไทย ด้วยเครือข่ายไปรษณีย์และทรัพยากรที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน และตอกย้ำการเป็นเครือข่ายชีวิตและเศรษฐกิจไทยอย่างเต็มภาคภูมิ นางสมร กล่าวในท้ายสุด