14 มีนาคม 2566 : นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่กลุ่มธนาคารในสหรัฐขาดเสถียรภาพในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลมาจากการได้รับผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นจากนโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีราคาของพันธบัตรกลับสวนทางกับอัตราผลตอบแทน
ดังนั้น เมื่อธนาคารมีการบันทึกบัญชีจากการถือครองพันธบัตรจึงทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมาก ปัจจัยนี้จึงทำให้เกิดการเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐ เพราะนักลงทุนคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่ จึงทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพของกลุ่มธนาคารในสหรัฐ และทำให้บางแห่งเกิดการปิดกิจการ
อย่างไรก็ดี การประชุมเฟดในช่วงวันที่ 21-22 มีนาคม 2566 มีการคาดการณ์แตกต่างจากก่อนหน้าที่ที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% มาเป็นคาดการณ์ว่าว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในช่วงวันที่ 21-22 มีนาคม 2566 รวมถึงปรับขึ้นอัตราดอกบี้ยเพียง 0.25% เริ่มมีสัดส่วนการคาดการณ์ที่มากกว่า ดังนั้นต้องจับตาว่าการขาดเสถียรภาพของกลุ่มธนาคารในครั้งนี้จะก่อให้เกิดวิกฤตทางการเงินหรือไม่ ซึ่งต้องดูการประชุมของเฟดในครั้งที่จะถึงนี้
สำหรับผลกระทบต่อตลาดทองคำ ยังต้องดูการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อประกอบ ถ้าหากเงินเฟ้อไม่พุ่งรุนแรงมากเช่นครั้งก่อนหน้า ก็อาจจะทำให้ทองคำย่อตัวอย่างจำกัด อย่างไรก็ดีการย่อตัวของทองคำถือเป็นโอกาสให้เข้าซื้อ เพราะแนวโน้มทองคำยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ ภาพรวมยังแกว่งตัวในขาขึ้นค่อนข้างชัดเจน โดยราคาทะยานขึ้นอย่างรุนแรง สวนทางสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.โดยแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน
โดยเฉพาะเมื่อราคาทองคำเข้าใกล้จุดสูงสุดที่ 1,958 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ราคาอาจจะมีแรงขายทำกำไรสลับลงมา เพราะระดับทองคำช่วงนี้เป็นจุดสูงสุดของปี ส่วนแนวรับแรกมองที่ 1,887 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่เนื่องจากเทรนด์ยังเป็นขาขึ้นได้ต่อ จึงสามารถทะยอยเข้าซื้อ ซึ่งแนวรับรับสำคัญอยู่ที่ 1,871 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หากไม่หลุดแนวรับนี้มีโอกาสปรับขึ้นต่ออย่างชัดเจน เพราะกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่เริ่มกลับเข้าซื้อทองคำ จึงเป็นอีกปัจจัยหนุนสำคัญ ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นแรง ส่วนราคาทองคำในรูปของเงินบาท มองกรอบแนวรับ 30,900 - 30,600 บาทต่อบาททองคำ แนวต้าน 31,900 บาทต่อบาททองคำ
ทั้งนี้ นักลงทุนที่ต้องการการลงทุนทองคำในรูปแบบสกุลเงินต่างประเทศ สามารถลงทุนผ่านแพลตฟอร์มลงทุนทองคำบนแอปพลิเคชัน YLG Gold Investment ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันแรกของไทยที่จะยกระดับการลงทุนในทองคำที่สามารถซื้อขายทองคำได้ถึง 5 สกุลเงินหลัก ประกอบด้วย ดอลลาร์สหรัฐ หยวน ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และเงินบาท เพื่อสร้างความหลากหลายเพราะเป็นการเพิ่มช่องทางทำกำไรในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพในภาวะที่ค่าเงินผันผวน และพิเศษในช่วงนี้ YLG ลดเงินวางประกันสำหรับเทรดทองคำบน แอปฯ YLG Gold investment จากการวางเงินประกัน 100,000 บาท เหลือ 50,000 บาท สนใจลงทุนคลิก https://www.ylggoldinvestment.com/