30 พฤศจิกายน 2559 : นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (30 พ.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นยุโรปคืนที่ผ่านมา แกว่งตัวในกรอบแคบ ตัวเลข GDP q3 รายงานครั้งที่สองของสหรัฐฯ สูงขึ้นจาก 2.9% เป็น 3.2% หนุนให้ค่าเงินดอลล่าร์ปรับตัวสูงขึ้น
ตลาดหุ้นต่างประเทศ กำลังรอปัจจัยใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นความคืบหน้าของการนำนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯที่ใช้ในการหาเสียงมาใช้ ว่าจะทำอย่างใดบ้าง หรือการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ว่าจะขึ้นในลักษณะใด ก่อนหน้าตลาดรับรู้ต่อเรื่องเหล่านี้มาระดับหนึ่งแล้วหากไม่มีอะไรใหม่ๆ ตลาดจะเริ่มชะลอลง
ขณะที่การลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศอิตาลี ในวันที่ 4 ธ.ค.เป็นเรื่องที่มีผลต่อตลาดยุโรป และประเทศอื่นๆในทางอ้อมหากประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล(นายกฯ)ซึ่งจะเกิดความกังวลต่อทิศทางของประเทศรวมไปถึงการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกภาพของสหภาพยุโรป
ซึ่งการที่ระดับของ Bond Yield นั้นเริ่มทรงตัวบ่งชี้ว่าตลาดกำลังรอข้อมูลใหม่ๆ ที่จะบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันจะทำให้ธนาคารกลางประเทศอื่นๆ เพิ่มความระวังในการออกนโยบายการเงินมากขึ้น เพื่อไม่ให้สวนทางกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ
ทั้งนี้การประชุม OPEC ในเย็นวันนี้ (30พ.ย.) ประเด็นที่ต้องตามคือ 1.)กลุ่ม OPEC จะปรับลดกำลังการผลิตลงจากปัจจุบัน 33.6 ล้านบาร์เรลต่อวันเท่าใด ระหว่าง 0.6-1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน 2.) ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC มีรายใดที่จะปรับลดกำลังผลิต และปรับลงเท่าใด 3.) จะปรับลดเมื่อใดและยาวนานแค่ไหน และ 4.) กลไกในการควบคุมการผลิตน้ำมัน
โดยที่การเจรจาที่จนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถระบุผลได้ บอกถึงโอกาสที่จะลดกำลังการผลิตลงมากๆ นั้นว่าเป็นไปได้ยาก แต่ถึงกระนั้นตลาดก็ไม่ได้คาดหวังมากอยู่แล้ว เราประเมินว่า ถ้าลดน้อยกว่า 7 แสนบาร์เรลต่อวัน ราคาน้ำมันดิบ WTI จะอยู่ในกรอบ $40-50 เหรียญ แต่ถ้าลดมากกว่านี้ จะขึ้นเป็น $50-55 เหรียญ
ส่วนปัจจัยในประเทศอีกไม่นานน่าจะทราบกำหนดการของการเลือกตั้งทั่วไป ที่กำหนดการเดิม คือปลายปี 2560 ในส่วนของตลาดหุ้นแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ ถึง 3.0 พันล้านบาท พลิกจากที่ซื้อไปในวันก่อนทำให้นักลงทุนยังคงมีความระมัดระวังในการเข้าซื้อหุ้นในวันนี้เรื่องมาตรการลดภาษี 15,000 บาท
สำหรับการท่องเที่ยวเป็นไปตามข่าวที่ออกมาในช่วงนี้และราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องต่างสะท้อนข่าวบวกนี้ไปบ้างแล้ว ดังนั้น ทิศทางตลาดหุ้นคาดว่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค.ที่ชะลอตัว ลดน้ำหนักในทางบวกของตลาดลง ขณะที่นักลงทุนบางส่วน จะรอดูผลการประชุม OPEC ในช่วงเย็นและ คาดว่าดัชนีฯเมื่อสิ้นวันมีแนวโน้มที่จะลดลงจากวันก่อน ด้วยทิศทางตลาดที่อ่อนไหวและรอคอยปัจจัยใหม่ๆ การเข้าเก็งกำไรจึงต้องใช้ความระมัดระวังนักลงทุนที่ต้องการเข้าถือเพื่อลงทุนแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง
หุ้นกลุ่มที่มีความน่าสนใจ จะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยเอง และหุ้นที่ให้ผลตอบแทนด้านเงินปันผลที่สูง หุ้นที่มองว่าน่าสนใจในวันนี้ได้แก่ LPH , HANA , TPIPL , SLP มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,487-1,505 จุด”