18 มกราคม 2566 : นางสาวนริสรา ชัยวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด หรือ BlueBell เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งภายในระยะเวลา 6 เดือน BlueBell สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างดีเยี่ยมสะท้อนออกมาเป็นยอดจัดจำหน่ายหุ้นกู้ครึ่งปี 2565 มูลค่ากว่า 5.5 พันล้านบาท โดยตั้งเป้าเติบโต 300% ยอดขายหุ้นกู้ทะยานสู่ 15,000 ล้านบาท ภายในปี 2566 นี้ เตรียมผุด 4 ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป พร้อมยืนหนึ่งเป็นผู้นำระบบธุรกรรมจองซื้อหุ้นกู้ออนไลน์แบบเต็มรูปแบบตอบโจทย์ผู้ลงทุนในยุคดิจิทัล
นางสาวนริสรา เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าหมายยอดขายหุ้นกู้ไว้ที่ 15,000 ล้านบาท หรือ เติบโตเป็น 3 เท่าของปี 2565 ซึ่งแม้ว่า BlueBell จะถือว่าเป็นบริษัทหลักทรัพย์น้องใหม่ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จากกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 และได้รับอนุญาตจาก สำนักงาน ก.ล.ต. ให้เริ่มประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการเป็นผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา แต่ก็สามารถพิสูจน์ความสำเร็จในการจำหน่ายหุ้นกู้ได้ตั้งแต่ดีลแรก นั่นคือ “หุ้นกู้ของบริษัท ไทยแอร์เชีย จำกัด” (TAA) กว่า 700 ล้านบาท จนปัจจุบัน มีเปิดเสนอขายดีลหุ้นกู้ไปแล้วกว่า 23 ดีล รวม 34 รุ่น รวมเป็นยอดจัดจำหน่ายหุ้นกู้มูลค่า 5,550.30 ล้านบาท
"เป้าหมายของยอดขายหุ้นกู้ที่จะเติบโตก้าวกระโดด 15,000 ล้านบาท (เฉพาะหุ้นกู้) ในปีนี้นั้นคาดว่าจะสามารถก้าวติดท็อป 10 ของบริษัทหลักทรัพย์ได้แน่นอน การเติบโตอย่างรวดเร็ว มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศุนย์กลาง ใส่ใจในการวิเคราะห์สินเชื่อโดยมีเครื่องมือหลากหลาย ก่อนที่จะออกหุ้นกู้มาจำหน่ายให้นักลงทุน เช่น วิเคราะห์ 5 C Model ได้แก่
คุณสมบัติพิเศษ (character) ประสิทธิภาพ,ประสิทธิผล (capacity) เงินทุน (capital) ความสามารถ (capability) และ หลักทรัพย์ประกัน หรือ หลักประกัน (collateral) รวมถึงทำ SWOT Analysis คือ การวิเคราะห์จุดแข็ง (S) จุดอ่อน (W) โอกาส (O) และอุปสรรค (T) เพื่อให้เข้าใจธุรกิจและสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้นก่อน รวมไปถึงการสัมภาษณ์ผู้บริหารรวมถึงเป้าหมายในอนาคต เป็นต้น"
นางสาวนริสรา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทก่อตั้งขึ้นจากปณิธานของทีมทำงานอย่างแท้จริง เพราะทีมทำงานคือผู้ที่ได้สัมผัสโดยตรงกับปัญหาต่างๆ ของนักลงทุน ความต้องการที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดี และทะลายข้อจำกัดที่มีอยู่เพื่อพัฒนาตลาดทุนให้มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และมีความยั่งยืน โดยทีมทำงานผู้มีประสบการณ์ตรงในสายงานการเงินการธนาคาร มากว่า 10 ปี ทุกคนเชื่อมั่นว่า BlueBell จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใต้วิสัยทัศน์ “Growing Your Wealth Together” และยกระดับมาตรฐานของธุรกิจตราสารหนี้ให้ก้าวไกลได้อย่างแน่นอน
ในปี 2566 นี้ บริษัทมีแผนขยายอีก 4 ผลิตภัณฑ์และบริการ นั่นคือ 1. บริการหุ้นกู้ดิจิทัล (Digital Bond) 2. ผลิตภัณฑ์กองทุนรวม 3. บริการตราสารหนี้ตลาดรอง และ 4. ผลิตภัณฑ์คราวด์ฟันดิง นับเป็น 4 เสาเรือธงที่จะขยายฐานในการเข้าถึงลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย ไปพร้อมๆ กับหลักกลยุทธ์ 4 ด้าน ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ อันได้แก่
1) Maintain Best Product Quality โดยทั่วไปนักลงทุนส่วนใหญ่จะพิจารณาแค่ Credit Rating และงบการเงินของผู้ออกตราสารก่อนตัดสินใจลงทุนเท่านั้น แต่หลักการการทำงานของทีมนักวิเคราะห์ BlueBell มองว่าสิ่งสำคัญในการพิจารณาออกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสู่ตลาด จำเป็นต้องมองภาพรวมทั้ง 2 มิติ ได้แก่ มิติความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสาร (Credit Analysis) และ มิติของความน่าลงทุนของหุ้นกู้เมื่อเทียบกับหุ้นกู้ตัวอื่นๆ ในตลาดภายใต้หลักบรรษัทภิบาล (Market Analysis) เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถตอบโจทย์ด้านผลตอบแทนของนักลงทุนได้อย่างยั่งยืนและเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของตลาดทุน ซึ่งโดยทั่วไป นักลงทุนจะมองแค่มิติของ Credit Rating และงบการเงินของผลิตภัณฑ์เท่านั้น
แต่ในหลักการของ BlueBell ในฐานะที่เป็นตัวกลางในการทำหน้าที่คัดเลือกผลิตภัณฑ์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ ประกอบด้วย อาทิ วิสัยทัศน์และความยั่งยืนของผู้ออกตราสารทั้งจากการพูดคุยและบทสัมภาษณ์ของผู้ถือหุ้นและผู้บริหารสูงสุดขององค์กรเพื่อทราบมุมมองในการทำธุรกิจ รวมถึง BlueBell เองยังมีเกณฑ์ในการประเมินสถานะทางการเงิน กระแสเงินสด และโอกาสในการเติบโตของแต่ละโครงการของผู้ออกตราสาร ซึ่งสะท้อนความสามารถในการชำระหนี้หรือช่องทางการจัดหาเงินจากแหล่งต่างๆ ของธุรกิจ
ทั้งนี้ นอกเหนือจากการพิจารณาด้านความน่าเชื่อถือแล้ว ยังต้องมองถึงมิติของความน่าลงทุนของหุ้นกู้ด้วยว่า หุ้นกู้ตัวนี้น่าสนใจพอที่จะขายนักลงทุนหรือไม่ BlueBell เชื่อเสมอว่า ตลาดหุ้นกู้จะยั่งยืนได้ เมื่อทุกคนทุกฝ่ายได้รับผลตอบแทนเหมาะสมกับความเสี่ยงของตนเอง
2) Increase Product Variety บริษัทวางแผนการขยาย 4 ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อเพิ่มโอกาสในการเลือกผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายตามความชอบของแต่ละกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยในไตรมาส 2 ปีนี้ ตั้งเป้าว่าจะสามารถเปิดบริการหุ้นกู้ดิจิทัล (Digital Bond) ให้นักลงทุนสะดวกสบายและเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับหุ้นกู้ได้ง่ายขึ้น และไตรมาส 3 จะพุ่งเป้าต่อยอดผลิตภัณฑ์กองทุนรวม โดยจะมีแม่ทัพคนสำคัญของธุรกิจกองทุนรวมมาร่วมบริหาร เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้า Wealth ที่สนใจการลงทุน
รวมถึงเตรียมแผนในการดูแลผู้แนะนำการลงทุนอิสระ (Independent Investment Consultant) ให้สามารถมีเครื่องมือในการตอบโจทย์แก่นักลงทุนมากยิ่งขึ้น ในส่วนของ บริการตราสารหนี้ตลาดรอง และ ผลิตภัณฑ์คราวด์ฟันดิง เองก็พร้อมเดินหน้าในไตรมาส 3 และ 4 ต่อไปเช่นกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่า หาก BlueBell เติมเต็มธุรกิจได้อย่างครบวงจรอย่างที่ตั้งเป้าไว้ จะสามารถชูจุดยืนในการเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำได้อย่างแน่นอน
3) Enhance Customer Experiences นอกจากโอกาสในการเพิ่มพูนผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว BlueBell ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์การดูแลแบบพรีเมี่ยมแก่ลูกค้าในทุกระดับ ซึ่งการบริการและนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้านั้น เกิดจากการดูแล ใส่ใจ และเข้าใจความต้องการของลูกค้าไปจนถึงปัญหาที่นักลงทุนต้องเผชิญในแต่ละจุดของการลงทุน BlueBell เชื่อว่าความจริงใจในการทำการตลาดโดยการส่งมอบสิ่งที่น่าพึงพอใจที่สุดนั้น จะทำให้นักลงทุนที่เป็นลูกค้าคนสำคัญทุกคนรู้สึกว่า เขาคือคนสำคัญและเป็นคนพิเศษของ BlueBell โดยในปี 2566 นี้ บริษัทจะมีทั้งกิจกรรมพิเศษ รวมไปถึงของสมนาคุณอีกมากมายเพื่อสร้างประสบการณ์อันเป็นเลิศและเพิ่มคุณค่าให้แก่นักลงทุนต่อไป
4) Go Digital การพัฒนาระบบธุรกรรมหุ้นกู้ออนไลน์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อต่อยอดการให้บริการให้เป็น Best Investment Solutions เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนในยุคดิจิทัลที่ต้องการความง่าย และสะดวกสบาย เพิ่มความสะดวกแก่นักลงทุนผ่านดิจิทัลแพลทฟอร์มที่มีให้ดีมากยิ่งขึ้น ระบบดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนในการแจ้งความประสงค์จองซื้อหุ้นกู้ จองซื้อและชำระเงินผ่าน E-Payment รวมถึงการดูพอร์ตการลงทุนในหุ้นกู้ได้ตลอด 24 ชม. (ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด)
นางสาวนริสรา กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา BlueBell ถือว่าประสบความสำเร็จได้เป็นที่น่าพอใจ จากการบริหารจัดการด้วยความมุ่งมั่น เข้าใจลูกค้าและยึดมั่นในผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้ BlueBell ได้รับความไว้วางใจและได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ชาวบลูเบลล์ทุกคนจะยังคงยึดมั่นในหลักการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและนำความสำเร็จเหล่านี้เป็นพลังขับเคลื่อนในการทำงานให้เต็มศักยภาพ รวมถึงการต่อยอดจากเดิมให้มีสีสันมากยิ่งขึ้น
โดยจะต้องปรับตัวไปตามความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสร้างความโดดเด่นทั้งผลิตภัณฑ์และการให้บริการควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มและประโยชน์สูงสุดต่อผู้ลงทุน ทั้งนี้ บริษัทจะยืนหยัดเคียงข้างผู้ลงทุนทุกก้าวย่างเสมือนว่าลูกค้าทุกท่านเป็นบุคคลสำคัญที่จะต้องดูแลด้วยใจ ให้ความสำคัญและอยู่คู่เคียงกันตลอดไป