กรุงเทพฯ, 16 มกราคม 2566 : MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ประกาศว่า ขณะนี้กำลังเร่งเครื่องการก่อสร้างพื้นที่ส่วนทาวน์ เซ็นเตอร์ ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ขนาด 398 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด ก.ม. 7 ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับรางวัลยกย่องมากมายและเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มูลค่า 125,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากทาวน์ เซ็นเตอร์แล้ว ในพื้นที่ของเดอะ ฟอเรสเทียส์
ยังประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายแบรนด์ โรงแรม พื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงป่าพื้นที่ 30 ไร่ด้วยทาวน์ เซ็นเตอร์ ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ มีขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 46 ไร่ โดย MQDC ได้ทุ่มเงินลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาทในการพัฒนาส่วนแรกของทาวน์ เซ็นเตอร์ ซึ่งมีกำหนดที่จะเปิดก่อนสิ้นปี 2566
นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดยMQDC เปิดเผยว่า “ทาวน์ เซ็นเตอร์ เป็นแนวคิดใหม่ที่พัฒนาในสเกลที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเราหวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญก้าวใหม่ในการวางแผนพัฒนาสังคมแห่งสุขภาพที่ดีและความสุข โดยทาวน์ เซ็นเตอร์ เป็นแก่นสำคัญของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ที่ทำหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์ในชุมชนแห่งนี้ และนำพาครอบครัวให้มาอยู่ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงออกแบบพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นที่ที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวจากทุกเจเนอเรชั่น จะสามารถมาทำกิจกรรมที่ตอบโจทย์ชีวิต การพักผ่อนหย่อนใจและความบันเทิง ตามที่ตัวเองต้องการได้ นอกจากนั้นเรายังได้สร้างสรรค์ให้พื้นที่ส่วนนี้ช่วยสร้างโอกาสให้ผู้คนได้มามีปฏิสัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมประจำวัน หรือกิจกรรมทางสังคมและกิจกรรมนันทนาการต่างๆ หรือแม้กระทั่งจะมาเดินเล่นเฉยๆ ก็ได้”
นายกิตติพันธุ์กล่าวว่า เทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้เป็นเจ้าของบ้านคือนอกจากการให้ความสำคัญกับคุณภาพของบ้านหรืออาคารคอนโดมิเนียมแล้ว ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพทั้งหมดของทำเลที่บ้านของตนเองตั้งอยู่ด้วย ซึ่งทาวน์ เซ็นเตอร์ ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ มุ่งที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการนี้
“ทาวน์ เซ็นเตอร์ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายตามแบบฉบับของการเป็นพื้นที่ศูนย์กลางของเมืองในยุคใหม่ที่ทันสมัย มีชีวิตชีวา มีการวางผังต่างๆอย่างดี และจะได้รับการดูแลรักษาในระดับมาตรฐานเดียวกันกับเมืองล้ำๆตามที่ต่างๆ ในโลกรวมทั้งได้เพิ่มความพิเศษอย่างมากเข้าไปด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่ร่มรื่นและสดชื่นองค์ประกอบส่วนภายในอาคารและภายนอกอาคารได้รับการออกแบบให้เชื่อมต่อกันอย่างกลมกลืนเป็นธรรมชาติ ทั้งยังใกล้กับผืนป่าขนาด 30ไร่ใจกลางเดอะ ฟอเรสเทียส์ ในระยะเดินเพียงสั้นๆ”
นางสาวอรดา เกิดหงษ์ ประธานผู้อำนวยการ – Storied Place Management, MQDC เปิดเผยว่า “ทาวน์ เซ็นเตอร์ ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ มีพื้นที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลายเป็นอย่างมากเป็นทาวน์ เซ็นเตอร์ อย่างแท้จริง ที่มีความผสมผสานแต่ก็เป็นแต่เป็นสัดเป็นส่วนและมีประสบการณ์ที่น่าค้นหาและรู้สึกเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา”
นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกิจกรรมประจำวันแล้วยังมีพื้นที่มาร์เก็ตให้ได้จับจ่ายใช้สอยอยู่อีกมากมายหลายจุดรวมไปถึงธีมมาร์เก็ตฮอลล์ ลานกิจกรรมและขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆ ตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกีฬาและการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงพื้นที่สำหรับการศึกษาเรียนรู้ และความบันเทิง พื้นที่เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต โคเวิร์คกิ้ง สเปซ ตลอดจนแอมฟิเธียเตอร์สำหรับจัดกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ
นางสาวอรดา กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้เป็นทาวน์ เซ็นเตอร์อย่างแท้จริงเราได้เน้นเป็นอย่างมากกับการสร้างสรรค์ สถานที่แฮงค์เอาท์หลากหลายรูปแบบ พร้อมเมนูอาหารและทางเลือกในการดื่มกินแบบต่างๆ ตอบโจทย์ทุกสไตล์ และหลากหลายราคา ซึ่งมีการใส่ใจเป็นพิเศษกับการออกแบบและผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสวัสดิภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงและเพื่อความสะดวกสบายของเจ้าของสัตว์เลี้ยง เนื่องจากการมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนได้กลายเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ของ ความสุขสำหรับหลายๆ คนในบรรดาพื้นที่ที่ก่อสร้างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์เป็นส่วนแรกๆ ได้แก่
โรงละครอเนกประสงค์ภายในอาคาร ซึ่งสามารถใช้เป็นสถานที่จัดการแสดงต่างๆ ได้ รวมถึงจัดแสดงงานศิลปะ งานแสดงสินค้า นิทรรศการ การประชุม และงานแต่งงาน รวมทั้งให้ผู้อยู่อาศัยในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ใช้เป็นเวทีจัดแสดงละครเองได้ด้วย “นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของการออกแบบพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในรูปแบบที่เอื้อให้สังคมในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้ใกล้ชิดสนิทกัน” นางสาวอรดากล่าว และ “สิ่งที่แน่ใจได้ก็คือ ไม่ว่าคุณจะแวะมาทำอะไรก็ตามที่ทาวน์ เซ็นเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์เลี้ยง ทาวน์ เซ็นเตอร์ จะเป็นที่ที่คุณได้เติมพลังชีวิตด้วยการพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางพื้นที่สีเขียวที่เงียบสงบหรือบรรยากาศที่น่าตื่นเต้น ทุกประสบการณ์สามารถพบได้ที่นี่”
ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เดอะ ฟอเรสเทียส์ได้เปิดตัวแนวคิดใหม่ของการอยู่อาศัย ภายใต้แบรนด์ “มัลเบอร์รี่ โกรฟเดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า” ซึ่งนำเสนอบ้านในรูปแบบคลัสเตอร์โฮม ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวเดียวกัน จากหลายเจเนอเรชั่นได้อยู่อาศัยในบ้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน สามารถใช้เวลาร่วมกันได้มากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวในบ้านแยกหลังของตัวเองซึ่งแนวคิดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีการใช้ชีวิตของครอบครัวไทยดั้งเดิมนั่นเอง
บ้านเดี่ยวในโครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่ามีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ประมาณ 1,000 ตารางเมตรจนถึงประมาณ 1,700 ตารางเมตร ราคาขายตั้งแต่ประมาณ 185 ล้านบาทไปจนถึง 310 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมี มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียม ซึ่งออกแบบภายใต้แนวคิดคล้ายๆ กันโดยมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 63 ตารางเมตรไปจนถึง 1,027 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท
วิลล่าอื่นๆ ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ได้แก่ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ ที่สุดหรูหราซึ่งเป็นซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์แห่งแรกที่สร้างขึ้นในประเทศไทย ส่วนโครงการที่พักอาศัยอื่นๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์วิสซ์ดอม จำนวน 3 อาคาร ซึ่งออกแบบเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนเริ่มทำงานคู่สมรสใหม่ที่เริ่มสร้างครอบครัวและมีหนึ่งอาคารที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง
โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ประมาณ 35 ตารางเมตรไปจนถึง 205 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ดิ แอสเพนทรี และสกายวิลล่า ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การมอบบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการดูแลผู้พักอาศัยอย่างครบวงจรตลอดชีวิตเดอะฟอเรสเทียส์ตั้งอยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วบนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ถือเป็นโครงการต้นแบบระดับโลกแห่งใหม่ในการพัฒนาเมือง รวมทั้งเป็นโครงการเมืองแห่งแรกของโลกที่ออกแบบทุกมิติเพื่อการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้นและมีความสุขมากขึ้น จนถึงขณะนี้ โครงการที่พักอาศัยแบรนด์ต่างๆ ในเดอะฟอเรสเทียส์มียอดขายรวมกัน เกินกว่า 22,000 ล้านบาท