13 ธันวาคม 2565 : ช่วงนี้สายเชียร์บอลคงอดหลับอดนอนกันเป็นทิวแถว เพื่อที่จะรอดูทีมโปรด กับมหกรรม FIFA World Cup Qatar 2022 หรือ ฟุตบอลโลก 2022 ที่รอบนี้ “การ์ตา” เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 20 พ.ย.-18 ธ.ค. 2565

แต่ใดๆ ก็แล้ว ระหว่างงานมหกรรมบอลโลกนี้ สายช้อปการลงทุนก็ไม่ควรพลาดโอกาสดีๆ ในการจัดพอร์ตลงทุนตลาดต่างประเทศให้ปังไปกับบบอลโลกกันด้วยนะ งานนี้ บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่า ช่วงที่มีฟุตบอลโลกในอดีต 7 ครั้งที่ผ่านมา ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นโลก MSCI เติบโตเฉลี่ย 4.3% และ 9.5%

ขณะที่ “จานนี อินฟานติโน” ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ "ฟีฟ่า" (FIFA) ระบุว่า “รายได้รวม” ของ ฟีฟ่า ในรอบ 4 ปี (2019-2022) มีรายได้สูงถึง 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีผลกำไรสุทธิมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ในครั้งนี้การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์ มีรายได้สูงถึง 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แซงหน้ารายได้เมื่อ 4 ปีก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย มีรายได้ 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นรายได้ที่เกินเป้าหมาย 6,440 ล้านดอลลลาร์สหรัฐฯ ที่ฟีฟ่าคาดการณ์เอาไว้

อย่างไรก็ตาม รายได้เชิงพาณิชย์ของฟีฟ่าค่อยๆ เริ่มฟื้นตัวมาตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งถือเป็นโอกาสสร้างเม็ดเงินสะพัดให้กับเศรษฐกิจโลกอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทที่เป็นสปอนเซอร์ในการจัดงานที่จะสามารถประชาสัมพันธ์สินค้าของบริษัทตัวเองออกไปสู่สายตาคนทั้งโลก จนเกิดการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคไปกับการซื้ออาหาร อุปกรณ์กีฬา การเดินทาง ที่พักต่างๆ หรือสินค้าและบริการอื่นในช่วงการจัดงานฟุตบอลโลก 2022 จนกลายเป็นแรงหนุนเพิ่มยอดขายให้แต่ละบริษัทสปอนเซอร์ได้ไม่มากก็น้อย

หากโยงกับเรื่องของการสร้างผลกำไรกับพอร์ตลงทุน ล้อไปกับงานบอลโลกนี้ โดย Phillip Global ได้แนะนำ หุ้นที่เป็นบริษัทสปอนเซอร์ให้กับการจัดงาน FIFA World Cup Qatar 2022 ครั้งนี้ มี 6 บริษัทด้วยกัน ได้แก่ Coca-Cola, Adidas, McDonald’s, Visa, Hisense และ Mengniu โดยPhillip Global นำทฤษฎี CANSLIM มาใช้เป็นเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตฯ ประกอบด้วย 7 ข้อ ได้แก่

C : Current Earning คือ กำไรสุทธิไตรมาสล่าสุด A : Annual Earning คือ การมีกำไรประจำปีเติบโตแข็งแกร่ง N (New Products) คือ มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เพื่อเป็นหลักประกันว่า ระยะยาวยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้นเติบโตตามมา S : Supply & Demand คือ การมีปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับสูง L : Leader or Laggard คือ ส่วนแบ่งตลาด I : Institutional Sponsorship คือ เราต้องมองหา สัดส่วนหุ้นที่นักลงทุนสถาบันถือครอง และ M : Market Direction คือ จุดเข้าซื้อที่เหมาะสม

เมื่อนำทฤษฎี CANSLIM มาพิจารณา พบว่าหุ้นสปอนเซอร์ทั้งหมด มีปริมาณการซื้อขายและส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในระดับสูง และมีปัจจัยบวกที่น่าสนใจเหมือนกัน คือ New Business Model ที่เป็นแผนการออกสินค้าหรือบริการในช่วง FIFA world cup 2022 เพื่อเป็นหลักประกันว่า ระยะยาวยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ "วอร์เรน บัฟเฟตต์" นักลงทุนชื่อดังระดับโลก กล่าวไว้ว่า การที่เราจะตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัทที่มีกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องและ ROE สูงกว่า 15% นั้น โดยหุ้นสปอนเซอร์ที่มีกำไรสุทธิต่อเนื่องและ ROE สูงที่สุด 4 อันดับแรก คือ Coca-Cola คิดเป็น 49.33%, Visa คิดเป็น 44.35%, Mengniu คิดเป็น 19.34% และ Adidas คิดเป็น 18.19% สะท้อนว่าบริษัทมีรายได้ค่อนข้างมั่นคงและมีสเถียรภาพ ส่งเสริมความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว

ที่สำคัญหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนสถาบันตัดสินใจเข้าไปถือครอง เป็นตัวสะท้อนความแข็งแกร่งทางธุรกิจ โดยหุ้นสปอนเซอร์ที่มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นนักลงทุนสถาบัน 4 อันดับแรก ได้แก่ Visa คิดเป็น 98.81%, Coca-Cola คิดเป็น 71.46%, McDonald’s คิดเป็น 70.07% และ Mengniu คิดเป็น 49.19%

เมื่อฟังกูรูแนะนำแบบนี้แล้ว นอกจากจะเชียร์บอลสนุกแล้วพอร์ตลงทุนยังปังด้วยนะ