กรุงเทพฯ, 2 ธันวาคม 2565 : แอกซ่าเป็นบริษัทประกันภัยรายแรกในประเทศที่นำเสนอความคุ้มครองเพิ่มเติมของแผนประกันภัย สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)ความคุ้มครองที่เพิ่มเติม คือ ความคุ้มครองความเสียหายหรือสูญหายต่อสายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (สูงสุด 10,000 บาทต่อปีกรมธรรม์) ความเสียหายหรือสูญหายต่อเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน (สูงสุด 50,000 บาทต่อปีกรมธรรม์)

และความรับผิดต่อบุคคลภายนอกจากอุบัติเหตุ เนื่องจากการใช้งานเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านและสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะ (สูงสุด 1,000,000 บาทต่อครั้ง) โดยความคุ้มครองนี้ยังรวมถึงแผนประกันภัยรถยนต์สำหรับปลั๊กอินไฮบริดนอกจากนี้ ลูกค้าแอกซ่ายังสามารถรับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมงได้อีกด้วย

มร. โคลด เซนย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “งานมหกรรมยานยนต์ เป็นหนึ่งในงานแสดงยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอกซ่าประเทศไทย ในฐานะผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการและผู้เข้าร่วมจัดแสดงในงาน มีความยินดีที่จะแนะนำกรมธรรม์ความคุ้มครองเพิ่มเติมที่เราออกแบบมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ด้วยเทคโนโลยี การวิจัยและการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อแทนที่รถเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันแอกซ่ามีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในการส่งเสริมนวัตกรรมและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ความคุ้มครองเพิ่มเติมของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้บุคคลและบริษัทต่างๆ ในประเทศไทยสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมรถยนต์ และตอบสนองความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ ทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเขาจะได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสม โดยเป้าหมายของเรา คือการทำให้การเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำได้ง่ายและคุ้มค่ามากขึ้น”

ตั้งแต่ปี 2561 จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น 2.3 เท่า จากเดิม 124,000 คันเป็น 284,600 คัน ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด หรือ HEV (ปัจจุบันคิดเป็น 71%ของรถที่จดทะเบียน) รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ หรือ BEV (คิดเป็น 16%)และรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด หรือ PHEV (คิดเป็น 13%) สำหรับปี 2565 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าคาดว่าจะสูงถึง 63,600 คัน หรือเพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่รถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) คาดว่าจะมียอดขาย 302,600 คัน ลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นผลมาจากกระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกต้นทุนน้ำมันเบนซินและดีเซลที่เพิ่มขึ้นรวมถึงนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ทั้งเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออก โดยมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี2573 รถยนต์ไฟฟ้าจะคิดเป็น 30%ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศไทย หรือ 700,000 คันต่อปี ในงานมหกรรมยานยนต์ปีนี้ บูธของแอกซ่าจัดขึ้น ตามแนวคิด “Drive tothe Green Future” เพื่อให้สอดคล้องกับความคุ้มครองเพิ่มเติมของแผนประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยแอกซ่ามีเป้าหมายที่จะกระชับความสัมพันธ์กับค่ายรถยนต์ทั้ง 35แบรนด์จาก 10 ประเทศ และจักรยานยนต์ 17 แบรนด์จาก 8 ประเทศที่เข้าร่วมงานในปีนี้

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทฯโดยการที่แอกซ่าได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมายโดยเฉพาะงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 นี้ซึ่งสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ต้องการเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าการสร้างความพึงพอใจและความจงรักภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้น

บูธแอกซ่าในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ตั้งอยู่ที่แถว D03กลางอาคารชาเลนเจอร์ ลูกค้าสามารถติดตามข่าวสารต่าง ๆ ของแอกซ่าผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

– เว็บไซต์ของแอกซ่า https://www.axa.co.th
– ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์แอกซ่า: โทร. 02-118-8111
– เฟซบุ๊กแอกซ่าประเทศไทย: https://www.facebook.com/AXAThailand/
– ไลน์แอกซ่า: @AXAThailand

*เงื่อนไขการรับประกันภัยและความคุ้มครองเป็นไปตามที่แอกซ่ากำหนด ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจเงื่อนไขก่อนทำสัญญาประกันภัยทุกครั้ง