1 ธันวาคม 2565 : อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) เผยรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เดือนพฤศจิกายน 2565 ระบุจำนวนผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลกเติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ที่ 1 พันล้านราย ภายในสิ้นปี 2565 และจะเพิ่มเป็น 5 พันล้านราย ภายในสิ้นปี 2571 แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่กำลังแผ่ขยายไปในหลายพื้นที่ต่างๆ ของโลก พร้อมคาดการณ์ว่าการเชื่อมต่อผ่านบริการ Fixed Wireless Access (FWA) ทั่วโลกจะเติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมจากที่เคยคาดไว้
FWA คือ บริการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่จะเข้ามาแทนที่การเชื่อมต่อบรอดแบนด์แบบผ่านสายสัญญาณสำหรับการใช้งานตามบ้านและธุรกิจ ที่เป็นรูปแบบการใช้งาน 5G หลักๆ แบบหนึ่งในยุคแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคที่ไม่มีบริการบรอดแบนด์หรือในตลาดที่บริการบรอดแบนด์ยังครอบคลุมไม่ทั่วถึง
แรงหนุนมาจากแผนกระตุ้นการนำ FWA มาใช้งานในประเทศอินเดีย และการคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตในตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ ทำให้ FWA ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ย 19% ต่อปีในช่วงระหว่างปี 2565-2571 และจะมีปริมาณการเชื่อมต่อสูงสุดถึง 300 ล้านครั้ง ในช่วงสิ้นปี 2571
จากการสำรวจผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSP) ในกว่า 100 ประเทศ พบว่ามากกว่าสามในสี่เปิดให้บริการ FWA ในปัจจุบัน และเกือบหนึ่งในสามเปิดบริการ FWA บนเครือข่าย 5G เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีสัดส่วนเพียงหนึ่งในห้า โดยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พบว่าเกือบ 40% ของบริการ 5G FWA ใหม่ เปิดให้บริการอยู่ในตลาดเกิดใหม่
ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ปี 2565 มีจำนวนผู้ใช้บริการ 5G รายใหม่เพิ่มขึ้น 110 ล้านรายทั่วโลก ทำให้ยอดรวมเพิ่มเป็น 870 ล้านราย ตามที่คาดการณ์ไว้ในรายงานก่อนหน้านี้ เผยให้เห็นว่าจำนวนผู้ใช้บริการ 5G จะยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านรายภายในสิ้นปีนี้ นับว่าขยายตัวรวดเร็วกว่าเครือข่าย 4G ถึงสองปี หลังเปิดให้บริการ
จากสถิติดังกล่าว ยังตอกย้ำให้เห็นว่า เครือข่าย 5G เป็นเจเนอเรชั่นเครือข่ายมือถือที่เติบโตรวดเร็วที่สุด โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ ประกอบด้วย อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานและพร้อมวางขายจากผู้จำหน่ายหลากหลายราย และราคาที่ลดลงเร็วกว่าสำหรับการใช้บริการ 4G รวมถึงการนำเครือข่าย 5G มาปรับใช้จำนวนมากในช่วงระยะแรกของประเทศจีน
5G ในภูมิภาคอเมริกาเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2565 จำนวนผู้ใช้บริการ 5G ในภูมิภาคทั้งสองนี้จะเพิ่มสูงขึ้นราว 35% ปัจจุบันมีผู้ให้บริการด้านการสื่อสารจำนวนเกือบ 230 รายทั่วโลกที่เปิดให้บริการ 5G และมีสมาร์ทโฟน รองรับเครือข่าย 5G เปิดตัวและวางจำหน่ายในตลาดมากกว่า 700 รุ่น
ภายในสิ้นปี 2571 จำนวนผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 พันล้านราย หรือคิดเป็น 55% ของผู้สมัครใช้บริการเครือข่ายมือถือทั้งหมด และคาดว่าความครอบคลุมของประชากร 5G จะสูงถึง 85% โดยเครือข่าย 5G จะรองรับการใช้ดาต้าบนมือถือได้ราว 70% ของดาต้าบนมือถือทั้งหมด และมีส่วนในการเติบโตของดาต้าโดยรวม
เฟรดริก เจดลิง รองประธานผู้บริหารและหัวหน้าเครือข่ายของอีริคสัน กล่าวว่า "ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารยังเดินหน้านำเครือข่าย 5G พร้อมบริการ Fixed Wireless Access มาปรับใช้อย่างต่อเนื่อง โดยในทุกสองปีมีปริมาณการรับ-ส่งข้อมูลบนเครือข่ายมือถือทั่วโลกเพิ่มขึ้นสองเท่า ตามที่ระบุไว้ในรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด ผู้ให้บริการกำลังดำเนินการเพื่อปรับใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของคลื่นวิทยุรุ่นล่าสุดที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงาน เพื่อเพิ่มการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนและใช้งานโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”
ภายในสิ้นปี 2571 คาดว่าผู้ให้บริการส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ โดยหลายรายกำลังจะยุติบริการบนเครือข่าย 2G และ 3G เพื่อนำคลื่นความถี่มาใช้รองรับเครือข่าย 4G และ 5G
ภายในสิ้นปี 2571 อีริคสันคาดว่าปริมาณผู้ใช้บริการ 5G ในภูมิภาคฯ จะมีถึง 620 ล้านราย ตอกย้ำให้เห็นว่าเครือข่าย 5G จะกลายเป็นเทคโนโลยีชั้นนำในการสมัครใช้บริการ โดยมีอัตราการเข้าถึงเครือข่ายที่ 48% การใช้ 5G และการใช้บริการเสมือนจริงใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของยอดการใช้ข้อมูลบนมือถือในภูมิภาคฯ คาดว่าในปี 2571 ยอดการใช้ดาต้าบนมือถือต่อสมาร์ทโฟนจะสูงถึง 54 กิ๊กกะไบท์ต่อเดือน หรือเติบโตเฉลี่ยเกือบ 30% ต่อปี โดยคาดว่าปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ระหว่างปี 2565-2571
มร.อิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับเครือข่าย 5G ซึ่งเราเห็นผลลัพธ์ของการนำ 5G มาปรับใช้ในช่วงแรก พบว่าประมาณ 15% ของประชากรได้เข้ามาใช้งานเครือข่าย 5G โดยประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าไปสู่การเติบโตระลอกที่สองจากการสมัครใช้บริการ 5G โดยภายในปี 2571 เราคาดว่าประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจะเข้าถึงบริการ 5G”
ขณะเดียวกัน ตัวเลขผู้ใช้บริการ 4G ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2565 เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 41 ล้านราย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีผู้ใช้บริการ 4G ทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ 5.2 พันล้านราย ภายในสิ้นปี 2565 คาดว่าผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมดจะมีสูงถึง 8.4 พันล้านราย และเพิ่มเป็น 9.2 พันล้านราย ภายในสิ้นปี 2571 โดยผู้ใช้งานมือถือส่วนใหญ่จะใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน และสิ้นปี 2565 คาดว่าจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนจะเพิ่มเป็น 6.6 พันล้านราย หรือคิดเป็น 79% ของยอดผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมด
รายงานฉบับล่าสุดยังย้ำความสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยภาคโทรคมนาคมถือว่ามีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนระดับโลก ทั้งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ด้วยตัวเองและผ่านการดำเนินงานที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การรับ-ส่งข้อมูลที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นจำเป็นต้องได้รับการจัดการด้วยเครือข่ายอัจฉริยะที่มีความทันสมัย ผสมผสานกับแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพให้เครือข่ายอย่างสมดุล