18 พฤศจิกายน 2559 : ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM) เปิดเผยว่าในช่วงระหว่างวันที่ 21-25 พฤศจิกายน 2559 นี้ บริษัทฯ ได้เตรียมออกกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศน้องใหม่ คือกองทุนเปิดทีเอ็มบี Asian Bond มูลค่าเงินทุนโครงการจดทะเบียนแล้วกับสำนักงานกลต. จำนวน 3,000 ล้านบาท มีนโยบายเน้นลงทุนในกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (feeder fund) คือกองทุน BGF Aisan Bond ในหน่วยลงทุนชนิด Class D2 USD
โดยกองทุนหลักมีนโยบายเพื่อสร้างกระแสรายได้ในระดับสูง โดยจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทที่จดทะเบียนหรือดำเนินธุรกิจหลักอยู่ในประเทศเสือแห่งเอเชีย (ตามนิยามของ Blackrock ผู้บริหารกองทุนมืออาชีพระดับโลก) ทั้งนี้ TMBAM จะทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน ด้วยมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
ในขณะที่เศรษฐกิจโลกโดยรวมเติบโตไม่ร้อนแรงขณะที่ยีลด์ (ผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารหนี้) อยู่ในระดับต่ำจนบางประเทศถือว่าต่ำเป็นประวัติการณ์ นอกจากนั้นยังมีความไม่แน่นอนในหลายๆ ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมโดยเฉพาะ ปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา หรือในหลายประเทศหลักของยุโรป เป็นต้น
ดังนั้น การแสวงหาทางเลือกในการรักษามูลค่าเงิน และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนไปด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ที่เสี่ยงพอประมาณแต่สามารถให้ยีลด์ที่สูงจึงน่าสนใจ ในการนี้ บริษัทฯจึงได้แนะนำกองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งพบว่าในปัจจุบันนั้น เอเชียมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อเทียบตลาดเกิดใหม่ภูมิภาคอื่นๆ อย่างละตินอเมริกา แอฟริกาหรือยุโรป
อันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลประเทศต่างๆในเอเชียปรับตัวดีขึ้นอย่างมีเสถียรภาพในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ในภาคธุรกิจปัจจัยพื้นฐานของระดับกิจการของบริษัทจดทะเบียนในเอเชีย อาทิสัดส่วนหนี้สินต่อทุนถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าภูมิภาคอื่นโดยเปรียบเทียบ และโดยเฉพาะสำหรับ Default Rate หรืออัตราการพักชำระหนี้ของตราสารหนี้ภาคเอกชนก็เช่นเดียวกัน
สำหรับกองทุนหลักหรือ Master Fund ที่บริหารโดย Blackrock บริษัทจัดการลงทุนที่มีขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีมูลค่ากว่า 4.65 ล้านล้านดอลล่าร์สรอ. (ณ สิ้นปี 2558) คือกองทุน BGF Aisan Tiger Bond นั้นมีจุดเด่นที่การบริหารจัดการกองทุนเชิงรุก (Active Management)
โดยมีการวิเคราห์เชิงลึกตั้งแต่ปัจจัยระดับมหภาค อาทิ Theme การลงทุนโดยรวม ระยะเวลาการบริหารอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในพอร์ตโฟลิโอ เครดิตสเปรดหรือการกระจายประเภทของสินทรัพย์ที่เหมาะสม จนถึงการวิเคราะห์ลงรายประเทศและรายบริษัท และแม้กองทุนจะสามารถลงทุนในตราสารที่อันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-Investment Grade Bonds) แต่กองทุนได้มีการควบคุม และระมัดระวังไม่ให้มีตราสารลักษณะดังกล่าว อาทิ High Yield Bonds ที่มากจนเกินไป (กำหนดเบื้องต้นให้ -/+ไม่เกิน10%จากดัชนีเปรียบเทียบ) เป็นต้น
ดังนั้น กองทุนนี้จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ประสงค์จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้เอกชนของประเทศและบริษัทในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉลี่ยเป็นตราสารหนี้ระดับ Investment Grade (BBB) เพื่อกระจายความเสี่ยงการลงทุนรวมถึงโอกาสรับผลตอบแทนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชีย โดยสามารถรับความเสี่ยงด้านเครดิตได้