16 พฤศจิกายน 2559 : ‘ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล’ แนะเลือกลงทุนระยะยาวไว้ใช้จ่ายยามเกษียณในกองทุน RMF ที่เข้าลงทุนใน REITs และกองทุนรวมอสังหาฯ ด้วยจุดเด่นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีรายได้จากค่าเช่าที่มั่นคงและสม่ำเสมอ หนุนโอกาสรับผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 5-6% ต่อปี* ด้านผู้บริหารปลื้มกองทุน ‘กองทุนเปิด ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ’ (CIMB-PRINCIPAL iPROPRMF) กองทุนลดหย่อนภาษี หลังทำผลงานอันดับหนึ่งในปีนี้ที่ 26.51%* (ตั้งแต่ต้นปี ถึง 31 ตุลาคม 2559) และย้อนหลัง 3 ปีให้ผลตอบแทนที่ดีเฉลี่ย 15.16% ต่อปี* ชูประสบการณ์บริหารทีมผู้จัดการลงทุนสร้างผลงานดีอย่างต่อเนื่อง
นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯประเมินการลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนใน REITs และกองทุนรวมอสังหาฯ ผ่านกองทุนรวม RMF เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อเก็บออมไว้ใช้ยามเกษียณ พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เนื่องจากเป็นการลงทุนใน REITs และกองทุนรวมอสังหาฯ ที่มีจุดเด่นด้านรายได้จากค่าเช่าที่มั่นคงและสม่ำเสมอในระยะยาว จึงมีโอกาสรับผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 5-6% ต่อปี* สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำในปัจจุบันซึ่งอยู่ในอัตรา 1%-1.5% ต่อปี** และสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2.10% ต่อปี*
“ผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวในกองทุนรวม RMF ที่มีนโยบายลงทุนใน REITs และกองทุนรวมอสังหาฯ ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยช่วงปลายปี 2559 ถึงปี 2560 จะยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ แต่คาดว่าจะเป็นการปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้การลงทุนใน REITs และกองทุนรวมอสังหาฯ ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนที่ดีจากเงินปันผลและไม่ต้องการความผันผวนสูง แต่ควรเลือกกองทุนที่มีสภาพคล่องดีและอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกไม่มาก” นายวิน กล่าว
สำหรับกองทุนรวม RMF ภายใต้การบริหารของซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ที่มีผลการดำเนินงานที่ดี ได้แก่ กองทุนเปิด ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ (CIMB-PRINCIPAL iPROPRMF) โดยได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์* มองว่ากองทุนนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อออมเงินระยะยาวไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณและต้องการกระจายความเสี่ยงการลงทุนโดยเลือกลงทุนใน REITs และกองทุนรวมอสังหาฯ ซึ่งกองทุนนี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าพอใจ เป็นอันดับ 1 ทั้งผลงานในปีนี้และผลงานย้อนหลัง 3 ปี* โดยผลการดำเนินงานนับตั้งแต่ต้นปี ถึง 31 ตุลาคม 2559 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 26.51%* และผลงานย้อนหลัง 3 ปี กองทุนให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 15.16% ต่อปี* สูงกว่าดัชนีเปรียบเทียบ SETPF 12.84% และ 5.75% ตามลำดับ*
ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กลุ่มค้าปลีกมีแนวโน้มที่ดีจากค่าเช่าที่มั่นคง เนื่องจากได้รับประโยชน์จากกำลังซื้อของชนชั้นกลางที่พักอาศัยหรือทำงานในเมือง อสังหาริมทรัพย์กลุ่มอาคารสำนักงานที่อัตราค่าเช่าพื้นที่มีแนวโน้มปรับขึ้นในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีความต้องการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานเกรดเอในย่านใจกลางเมือง ขณะที่ปริมาณซัพพลายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดมีจำกัด ส่วนอสังหาริมทรัพย์กลุ่มคลังสินค้านั้น คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่กำลังขยายตัวและการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในกลุ่มประเทศ CLMV ที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตดีอีกด้วย
“สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนนี้ มีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่มียอดลงทุนสะสมตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม ถึง 30 ธันวาคมนี้ โดยทุกๆ ยอดลงทุนสะสม 50,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุน CIMB-PRINCIPAL TREASURY มูลค่า 100 บาท” นายวิน กล่าว