15 พฤศจิกายน 2559 : ธ.ก.ส.ร่วมมือกับเดอะมอลล์และตลาดไท เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร ทั้งด้านการจัดการและการตลาด พัฒนาผู้ประกอบการภาคเกษตร (Small and Medium Agricultural Enterprise : SMAEs)
นายอดุลย์ กาญจนวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงความร่วมมือในโครงการนี้ ว่า “ธ.ก.ส.จัดทำโครงการหนึ่งตำบลหนึ่ง SME เกษตร สนับสนุนเกษตรกรครบวงจรตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การพัฒนาคุณภาพ การตลาดและด้านสินเชื่อ เพื่อให้ SMAEs มีความเข้มแข็งเป็นหัวขบวนในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ด้านการเกษตรของประเทศ ตั้งเป้าหมาย 72,000 ราย วงเงินสินเชื่อ 72,000 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อ และความรู้ให้เกษตรกรลูกค้าเพื่อผลิตสินค้าการเกษตรที่ดีมีคุณภาพพร้อมสนับสนุนช่องทางด้านการตลาด
ความร่วมมือในครั้งนี้ ธ.ก.ส.,เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ไทยแอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) เพื่อเชื่อมโยงผลผลิต ในโครงการของเกษตรกรที่มีมาตรฐานและคุณภาพ ผ่านการคัดสรรมาวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ที่มีชื่อเสียง มีกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง สินค้าคุณภาพจากเกษตรจะจำหน่ายถึงมือผู้บริโภคโดยตรงนับเป็นการขยายตลาดได้เป็นอย่างดี
ในด้านตลาดไทนั้นถือว่าเป็นแหล่งกระจายสินค้าขนาดใหญ่ศูนย์รวมของผลผลิตการเกษตร เป็นช่องทางตลาดที่มีศักยภาพ ที่จะรองรับและกระจายผลผลิตของเกษตรกรได้เป็นอย่างดีเยี่ยมอีกช่องทางหนึ่ง สร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรที่ร่วมโครงการฯ ความร่วมมือของ 3 หน่วยงานในครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับผลผลิตของเกษตรกรด้วยการจัดมาตรฐานคุณภาพ และเพิ่มช่องทางการจำหน่าย พร้อมทั้งต่อยอดให้เกษตรกรผู้ร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 SME เกษตร และโครงการชุมชนสามารถปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อสู้กับวิกฤตภัยแล้ง พัฒนาเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจ ในด้านมาตรฐานและคุณภาพของสินค้าเกษตรสร้างรายได้และความมั่นคงให้เกษตรกรไทย
นางลักขณา นะวิโรจน์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป ซึ่งในปัจจุบันประกอบไปด้วย กูร์เมต์ มาร์เก็ต จำนวน 9 สาขา และ โฮม เฟรช มาร์ท จำนวน 4 สาขา นอกจากนี้ ด้วยกลุ่มลูกค้าและช่องทางการตลาดที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับในการจำหน่ายสินค้าระดับคุณภาพเป็นที่ยอมรับ เดอะมอลล์ กรุ๊ป จะร่วมพัฒนายกระดับการจัดการด้านการตลาดอย่างครบวงจรกับ ธ.ก.ส. และ ตลาดไทให้บรรลุเป้าหมายของโครงการฯ อันจะมีส่วนช่วยผลักดันในการพัฒนาสินค้าเกษตรเพื่อให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดี อย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายเกรแฮม แซนเดอร์ส บริษัท ไทยแอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) กล่าวว่า เล็งเห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่ง ตลาดไทจึงกำลังพิจารณาสิ่งที่ตลาดไทอาจจะทำได้เพื่อสนับสนุนให้โครงการบรรลุเป้าหมาย ซึ่งอาจจะทำได้หลายวิธีการ เช่น สนับสนุนให้มีการกำหนดมาตรฐานขนาด (Standard Size) ของผลผลิตให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน การพัฒนาผลผลิตคุณภาพ (Premium Grade) ที่สามารถตรวจข้อมูลย้อนกลับได้ว่าเป็นผลผลิตของใคร การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และการประสานงานกับผู้ค้าเพื่อรับซื้อผลผลิตที่มีคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อเป็นการร่วมกันพัฒนาระบบการสร้างแรงขับเคลื่อน เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิต และดำเนินการได้ตามมาตรฐาน
นอกจากนี้อีกทางหนึ่งที่กำลังพิจารณา คือการสนับสนุนในเรื่องการจัดสถานที่จำหน่ายสำหรับผลผลิตคุณภาพ (Premium Grade) เพื่อเป็นช่องทางของผลผลิตคุณภาพ และเป็นสถานที่พบกันระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย ที่ต้องการสินค้าเกษตรคุณภาพ
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการ เชื่อมโยงผลผลิตเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. คือ ข้าว A-Rice จำนวน 250 ตัน กล้วยหอมทอง จำนวน 3,000 ตัน และผักอีกจำนวน 2 ชนิด มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการประมาณ 200 คน ขยายตลาดผ่านช่องทางจำหน่ายของบริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ไทยแอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) ซึ่งเป็นการบูรณาการโครงการหนึ่งตำบลหนึ่ง SME เกษตร และโครงการชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิตสู้วิกฤตภัยแล้ง โดยมุ่งเน้นให้เกษตรกรรวมตัวกัน ในรูปของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เกษตรกรได้รับการอบรมความรู้ ด้านห่วงโซ่อุปทานการผลิต ตั้งแต่การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว การจัดขนาดมาตรฐานผลผลิต การจัดการผลผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน
ยกตัวอย่าง จำหน่ายในตลาดล่าง/แปรรูป การตลาด การจัดทำบัญชี การทดลองทำจริง การศึกษาดูงาน เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนวางแผนการผลิตร่วมกันตั้งแต่เริ่มลงมือผลิตจนถึงการจำหน่าย โดยมีการติดตามประเมินความก้าวหน้าตามแผนการผลิต ปัญหาอุปสรรค การพัฒนาความรู้ การร่วมกันแก้ไขปัญหาตลอดจนการวางแผนการเก็บเกี่ยว
การขนส่งและการจำหน่าย เมื่อเกษตรกรกลุ่มนี้ได้มีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้จะเข้าใจถึงการให้ความสำคัญต่อวิธีการจัดทำแผนธุรกิจ การลงทุน การตลาด สามารถนำความรู้และทักษะไปประยุกต์ใช้ตัดสินใจเลือกประเภทของผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การตลาดในโลกยุคใหม่ พร้อมทั้งดำเนินการจัดทำโครงการ SMAEs ของกลุ่มหรือชุมชนของตนเองได้ ความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่จะขับเคลื่อนเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรให้มีความเข้มแข็งและมั่นคง ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น