อยากจะร้อง ว๊าววววววๆๆๆๆๆให้กับ “ดอนัลด์ จอห์น ทรัมป์” นักธุรกิจชาวอเมริกันเสียจริงๆ กับว่าที่ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา คนที่ 45 ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีฯอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560 นี้ หลังจากฟาดฟันกับความคิดลบของชาวอเมริกาทั้งประเทศที่มีต่อตัวเค้า จนในที่สุดชาวอเมริกาเกินครึ่งประเทศยอมจำนน และจนใจต้องเลือก “ทรัมป์” ให้เข้ามาครองตำแหน่งผู้นำของประเทศในนามของพรรค พรรคริพับลิกัน จนทำให้ผลโพลของสำนักวิจัยน้อยใหญ่ สื่อนานาประเทศ รวมไปถึงนักวิชาการ นักวิเคราะห์ และเหล่ากูรูทั้งหลายต้องหน้าแหกแตกกันเป็นเสี่ยงๆ เข้าทฤษฎีของจริงที่ว่า “หักปากกาเซียน” เพราะหลายต่อหลายคนมั่นใจเป็นนักหนาว่า ประธานาธบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ต้องเป็น “นางฮิลลารี ไดแอน ร็อดแดม คลินตัน” พรรค พรรคเดโมแครต อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งภรรยาของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 42 “บิล คลินตัน”

8 พ.ย.59 วันที่หลายคนตั้งตารอลุ้นผลนับคะแนนเสียงในการตัดสินชี้ขาดว่าใครจะได้รับตำแหน่งอันสูงส่งนี้ คะแนนที่ถูกนับในช่วงแรกออกมาเป็นที่สบายตาและสบายใจ เพราะนางคลินตันมีคะแนนนำโด่ง แต่พอเข้าจริงก่อนช่วงตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดเท่านั้นแหละ คะแนนฟากฝั่งผู้เข้าชิงอย่าง นายทรัมป์ ก็เริ่มตีตื้นใกล้นางคลินตันจนน่าใจหาย ทำให้ดาวโจนส์ร่วงระเนระนาด และยิ่งร่วงหนักมาก เมื่อผลนับคะแนนเป็นที่แน่ชัดกว่า 90% ว่า นายทรัมป์ได้เข้ารับตำแหน่งนี้แน่นอน ทำให้เกิดการพลิกล๊อคแบบเหลือเชื่อว่า นโยบายที่นายทรัมป์ใช้หาเสียงและสร้างศัตรูไปภายในตัวนั้น จะได้ใจชาวอเมริกาขนาดนี้ จน นางคลินตันถึงกับน้ำตาตกหนักมาก เพราะต้องฝันสลายกลางอากาศกับการได้นั้งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯในครั้งนี้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมานางทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวจนอายุล่วงเลยกว่า 69 ปี สุดท้ายนางก็ชวด

และหลังจากผลนับคะแนนออกมาอย่างเป็นทางการ ประชาชนชาวอเมริกาบางกลุ่มที่สนับสนุน นางคลินตันก็ได้ออกมาเดินหน้าประท้วงแสดงความไม่พอใจที่นายทรัมป์เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ การประท้วงถึงขั้นมีการเผาธงชาติอเมริกาและทำลายข้าวของอย่างน่ากลัว ทั้งๆที่นายทรัมป์เพียงแค่เป็นว่าที่ประธานาธิบดีฯในขณะนั้นเท่านั้นเองนะ ก็ยังกิดการประท้วงหนักพอดู ซึ่งเป็นเรื่องน่าขันสำหรับชาวโลก ที่ก่อนหน้านี้อเมริกามักจะยัดเยียดความเป็นประชาธิปไตยให้นานาประเทศแบบไม่หยุดหย่อน

แต่ท้ายสุดตัวเองกลับมาเดินประท้วงเสียเอง หลังจากนี้ไปคงจะก้าวก่ายเรื่องนี้ในประเทศอื่นๆ น้อยลงนะ และการที่ นายทรัมป์ได้รับเลือกในครั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าหลายคนอาจจะเบื่อกับนโบายเดิมๆ ก็เป็นได้ ที่สำคัญไม่มีตัวเลือกที่ดีมากนัก การได้นายทรัมป์มาอาจจะได้พบอะไรแปลกใหม่ให้กับประเทศก็แค่นั้นเอง ก็คล้ายกับการเมืองในประเทศไทย กับนักการเมืองเดิมๆที่วนกินบ้านกินเมืองไปมา พอมีใครใหม่ๆเข้ามาก็ลองให้เขาเข้ามาดู แต่ที่น่าสนใจไม่น้อย คือ คำปราศรัยของนายทรัมป์ที่ทำให้ชาวอเมริกาได้ใจขนาดนี้

ล่าสุด เฟสบุ๊คของ “นางวรรณ ธาราภูมิ” นายกสมาคม บลจ.ได้ตีแผ่คำปราศรัยของทรัมป์บางช่วงบางตอนไว้อย่างน่าสนใจ จนเข้าใจถึงหัวอกคนอเมริกาได้บ้าง สำหรับคำปราศรัยของ นายทรัมป์ มีอยู่ว่า “อเมริการณรงค์ประชาธิปไตยมา 20 ปีทั่วโลก เราได้อะไร เราอ้างความเป็นตำรวจโลกและประชาธิปไตยข้างเดียว ทุ่มเทกับการยัดเยียดประชาธิปไตยไปให้ประเทศอื่น
พวกเราอเมริกาถือปืนและยูเอสดอลล่าร์ไปล้มล้างซัดดัมของอิรัก กัดดาฟีของลิเบีย ซีเรีย อียิปต์ ยูเครน ตุรกี กรีซ …. ขอถามหน่อยว่าเราได้อะไร พ่อค้าของเราไม่กล้าไปตะวันออกกลาง อาฟริกา

ตอนแข่งกิฬาโอลิมปิคที่บราซิล ไม่กล้าชักธงอเมริกา อยู่ตะวันออกกลางดินแดนผลิตน้ำมัน แค่บอกว่าเป็นชาวอเมริกัน ความตายก็มาถามหาเราลบหลู่ ปูติน ลบหลู่ EU ลบหลู่จีนเราถือครองเทคโนโลยี่ขั้นสูงสุด แต่ทางการค้าสู้จีนไม่ได้ จึงต้องสละ WTO ไปเริ่ม TPP

ดูจีนสิ 20 ปีที่ผ่านมานี้ พวกเขาไม่เพียงแต่ช่วงชิงตำแหน่งอันดับ 1 ทางการค้าโลกจากเราไป แต่ยังได้ซื้อเหล็กกล้าร้อยละ 80 น้ำมันและแก๊สร้อยละ 40 ถั่วเหลือง ร้อยละ 70 ทองคำและทองแดงร้อยละ 80 จากทั่วโลก … ซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินจาก ยูเครน จรวดนำวิถีจากอิสราเอล เครื่องกลึงจากเยอรมัน เหล้าไวน์จากฝรั่งเศส แม่ง!..

พวกเขาล้วนใช้เงินยูเอสดอลล่าร์ซื้อ พวกเขาซื้ออาหารจากเรา ขายพริกและกระดานบันทึกให้เรา ซื้อเหล็กกล้าของเรา ขายของเด็กเล่นให้เรา นี่ยังไม่สำคัญเท่าที่จีนเริ่มใช้เงินหยวนแทนที่ยูเอสดอลล่าร์ในตลาดโลก ถึงแม้ว่าหยวนจะไม่มีค่ามากนัก แต่สามารถเปลี่ยนเป็นยูเอสดอลล่าร์ได้ทันที ซึ่งพวกเขามีมากมายมหาศาล มากกว่าพวกเราเสียอีก แม่ง!…

อาฟริกาถูกเขาแย่งไปหมดนี่คือสภาพของเรา ผมจะไม่สนับสนุน TPP ของโอบาม่า ผมจะทำให้โอบาม่าและฮิลลารีของดีโมแครตเป็นไอ้ตัวบัดซบของประวัติศาสตร์อเมริกา20 ปีทีผ่านมา ชนบทจีนอัตราการฆ่าตัวตายลดต่ำลงถึง 90% การอ่านไม่ออกลดลงเหลือไม่ถึง 10% อายุยืนมากขึ้น 10 ปี รถยนต์ส่วนตัวจากศูนย์กลายเป็นรถติดทั่วประเทศ รถไฟความเร็วสูงมีมากถึง 70% ทั่วโลก เมืองที่มีพลเมืองเพียง 5 แสนคนก็มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยง ทางด่วนจากศูนย์เปลี่ยนเป็นเชื่องโยง 2 พันกว่าอำเภอ สะพานที่ยาวที่สุด สูงที่สุดและยากที่สุด คนจีนถือเป็นเรื่องง่าย ๆ

สภาพความร่ำรวยของคนจีน ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น อสังหาริมทรัพย์ราคาไล่นิวยอร์คของเราติดๆ คนจีนไม่ไปเที่ยวประเทศไหน ประเทศนั้นเดือดร้อน คนจีนไม่ซื้อ ราคาเหล็กโลก น้ำมันตกทันทีที่น่าโมโหก็คือ การก่อการร้ายไม่กล้าไปที่จีนอเมริกามีชีวิตอยู่บนฟองสบู่ขนาดใหญ่ของยูเอสดอลล่าร์ เป็นประเทศที่ไม่มีทางรักษาแล้ว หย่อนบัตรให้ผมซิ มีผมเท่านั้นที่แก้ไขอเมริกาที่ยับเยินนี้ได้

ผมก็คือประธานาธิบดีคนต่อไปของท่าน สนับสนุนผมเถอะ เราจะต้องอิสระแบบมีศักดิ์ศรี ใครมีเงินเราก็ค้าขายด้วยเราจะต้องอยู่อย่างมีความสุข”

และนี่คือบางตัวอย่างที่นายทรัมป์ได้กล่าวหาเสียงเอาไว้ ซึ่งน่าสนใจไม่น้อยสำหรับชาวอเมริกาที่เบื่อกับนโยบายเดิมๆ