10 พฤศจิกายน 2559 : นายวาสิต ล่ำซำ กรรมการและกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ สมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยภายหลังจากการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “เทคนิคการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำหรับการประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ” ว่าจากการแข่งขันของบริษัทประกันภัย สำหรับการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และการประกันสุขภาพนั้น และมีการแนะนำให้ซื้อชดเชยรายวัน กรณีเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในระดับหลายพันบาทนั้น
ปัจจุบัน การประกันสุขภาพมีการฉ้อฉลจากลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยพิจารณาจากสินไหมที่ผิดปกติ ทำให้สมาคมฯ ต้องขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยตรวจสอบ
ทั้งนี้ การฉ้อฉลประกันภัยนั้นมีแนวทางที่จะทำได้หลายรูปแบบ เช่นการทำประกันไว้กับหลายบริษัท ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เพื่อที่จะได้รับในส่วนของเงินเคลม โดยในแต่ละเคสนั้น มีการเรียกเงินเคลมตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้าน และส่วนใหญ่มาจากค่ารักษาพยาบาลและการชดเชยรายวัน
นายวาสิต ยกตัวอย่างว่าในอดีตการเรียกค่าสินไหมนั้นเกิดมาจากการทำร้ายผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเกิดอุบัติเหตุแล้วมาเคลม โดยในปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นทำร้ายตัวเอง เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทน เช่นจากการเจ็บป่วย แล้วเข้าไปรักษาตัวโรงพยาบาล ค่าชดเชยรายวัน เพราะค่าชดเชยรายวันได้ถึง 5,000 บาท (จากการจ่ายค่าเบี้ย 15,000 – 20,000 บาท)
ต่อเรื่องดังกล่าวทำให้สมาคมฯ มีแนวคิดที่จะเพิ่มการแชร์ข้อมูลสินไหมในแต่ละบริษัทให้มากขึ้น โดยขณะนี้มีการแชร์ข้อมูลแล้วกว่า 10 บริษัท จากเดิมที่มีอยู่เพียง 6 บริษัทโดยคาดว่าจะมีอีกหลายบริษัทที่จะเข้าร่วมการแชร์ข้อมูลสินไหม เพื่อป้องกันการเกิดการฉ้อฉล โดยแนะนำให้มีการประเมินวิธีการออกแบบประกัน วิธีการรับประกัน ช่องทางการขาย เพราะหลายกรณีที่เจอนั้น จับได้ว่าได้ทำกับเป็นขบวนการ และมาในรูปแบบที่หลากหลาย
“ในแต่ละบริษัทควรมีทีมงานสอบสวนที่มีคุณภาพ และออกแบบใบคำร้องขอรับประกันใหม่ ให้มีการรายละเอียดเพิ่มขึ้น เพิ่มข้อมูลต่างๆให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ” นายวาสิต กล่าว
นายวาสิต กล่าวปิดท้ายว่า ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดความเสี่ยง โดยมองว่าควรมีกลไกในการป้องกัน โดยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ลดโอกาสที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง ลดแรงจูงใจ โดยให้พิจารณาโดยการสอดส่องในแต่ละกรณีไป