19 พฤษภาคม 2565 : นางมุขยา (ใต้) พานิช Chief Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมสำหรับอนาคต และเล็งเห็นว่าระบบการจัดการคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และคริปโตเคเรนซี่ของ Talos (Talos’ Crypto Order Management and Execution) ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของกองทุนทางเลือก (Hedge Fund) ผู้จัดการสินทรัพย์ (Asset Managers) ธนาคารต่างๆ นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Brokers) ผู้ค้าหลักทรัพย์ (Dealers) และนายหน้าหลักในการซื้อขาย (Prime Brokers) ตลอดจนผู้ให้บริการต่างๆ
อีกทั้ง Talos ให้บริการเทคโนโลยีด้านโครงสร้างพื้นฐานการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงคริปโตเคเรนซี่ (Crypto Trading Infrastructure) ที่ครอบคลุมแก่ลูกค้ากลุ่มสถาบัน ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการการลงทุนได้อย่างครบวงจร (Trade Life Cycle) ตั้งแต่ต้นจนจบอย่างสมบูรณ์ เริ่มตั้งแต่ช่วยในการค้นหาราคาในหลากหลายตลาด (Price Discovery) จนถึงการดำเนินการซื้อขาย (Execution) ตลอดจนการชำระราคาและส่งมอบสินทรัพย์ (Clearing and Settlement)”
นางมุขยา ยังกล่าวเสริมอีกว่า “เราไม่สามารถที่จะมองข้ามการเปลี่ยนผ่านที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของภาคส่วนการเงินได้เลย เรามองว่าบทบาทของ Talos จะมีความสำคัญยิ่งในการช่วยทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักลงทุนสถาบันอย่างแพร่หลาย และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของในการเติบโตของ Talos”
นายแอนทอน แคทซ์ (Anton Katz) ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Talos กล่าวว่า “เราเชื่อว่าในที่สุดนั้นโครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets Infrastructure) จะมีผลเป็นวงกว้างกับทางอุตสาหกรรมการเงินโดยรวมทั้งหมด อันเนื่องมาจากว่าบรรดาสินทรัพย์พื้นฐานต่างๆ ในโลกการลงทุนปัจจุบัน (Traditional Assets) ในที่สุดก็จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีใหม่นี้ด้วย”
“การระดมทุนครั้งนี้มาจากบรรดาผู้ร่วมทุนของเรา ซึ่งได้แก่ สถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงและมีประวัติอันยาวนานหลายแห่งจากวอลสตรีท ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอย่างยิ่งของอุตสาหกรรมการเงินของโลก เราคงได้ยินกันมานานแล้วว่า สถาบันการเงินกำลังจะเข้ามาในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล แต่แท้ที่จริงแล้ว บรรดาสถาบันการเงินต่างๆ นั้นได้เข้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทาง Talos รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจและการสนับสนุนจากบรรดาสถาบันการเงินเหล่านี้” นายแอนทอน แคทซ์ (Anton Katz) กล่าว
การระดมทุนของ Talos ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากบริษัทได้เห็นปริมาณการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มจำนวนอย่างมหาศาล ถึง 20 เท่าของปริมาณการซื้อขายเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน (Year-over-Year -YoY) ในการระดมทุนครั้งล่าสุดนี้ ยังได้รับการสนับสนุนด้วยการเพิ่มทุนจากหลายบริษัทที่ได้ร่วมลงทุนกับ Talos อยู่แล้ว รวมถึงร่วมทำ Partnership กับ Talos อันได้แก่ บริษัท Andreessen Horowitz, PayPal Ventures, Castle Island Ventures, Fidelity Investments, Illuminate, Initialized Capital และ Notation Capital
ด้วยยอดเงินทุนใหม่นี้ จะทำให้ Talos สามารถขยายการให้บริการสู่ เอเชีย-แปซิฟิก และทวีปยุโรปได้อย่างมั่นคง พร้อมไปกับการเจริญเติบโตและการสรรค์สร้างเทคโนโลยีตลอดจนนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมา เพื่อที่จะช่วยสนับสนุนวัฏจักรการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ให้ครอบคลุมทุกขั้นตอนของการลงทุน (End-to-end Trade Lifecycle) รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆอันมีประสิทธิภาพ ทั้งก่อนและหลังการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
Talos มีเจตนารมณ์ในการนำเงินทุนไปใช้ในการขยายทีมชั้นนำของ Talos ในระดับโลก ในปีที่ผ่านมาทีมงานของเรานั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 400% ในปัจจุบัน Talos มีตำแหน่งงานในเมืองและประเทศต่างๆทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ก ลอนดอน สวีเดนและสิงคโปร์ รวมถึงตำแหน่งงานที่สามารถทำงานจากที่บ้าน (Remote Roles)