WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันศุกร์ ที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
ส่องความสำคัญของ ‘น้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย’ หลังยุโรปจ่อเพิ่มมาตรการคว่ำบาตร

17 พฤษภาคม 2565 : อัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ค.แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า มีแนวโน้มจะกลับมาเร่งขึ้นตามการปรับขึ้นของราคาสินค้าในหมวดพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงหลังจากมีการยกเลิกตรึงราคาดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร และให้เริ่มทยอยปรับราคาขึ้นแบบขั้นบันไดตั้งแต่ 32 บาทต่อลิตร จนอาจถึงกรอบเพดานใหม่ที่ 35 บาทต่อลิตร จึงอาจกระทบต่อต้นทุนการขนส่งและการผลิตสินค้า รวมถึงยังมีการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม และการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) รอบเดือนพ.ค.-ส.ค. รวมถึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบ

ฟังดูแล้ว อาจจะต้องรัดเข้มขัดแน่นขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ทยานขึ้นแบบไม่มีพักเหนื่อยกันเลยที่เดียว แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อสงครามระหวว่างรัฐเซียกับยูเครนยังไร้แนวโน้มคลี่คลาย และที่หนักไปกว่านั้น หลายประเทศในแถบยุโรปจ่อเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อเนื่อง ดังนั้น ‘น้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย’ จากนี้จะเป็นไปในทิศทางใด

ล่าสุด “วาเลนตินา โรมีโอ” นักเขียนด้านการลงทุน ได้ส่องความสำคัญของ ‘น้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย’ หลังยุโรปจ่อเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อเนื่อง ไว้อย่างน่าสนใจ ว่า ปัจจุบันสถานการณ์สงครามรัสเซียบุกยึดยูเครนได้ก้าวเข้าสู่เดือนที่สอง บรรดาชาติตะวันตกขู่จะเพิ่มมาตราการคว่ำบาตรรัสเซียให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย ก็ใช้น้ำมันและก๊าซเป็นอาวุธต่อรองทางการเมือง ส่งผลให้อุปทานของแหล่งพลังงานสำคัญทั้งสองยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะหยุดชะงักหรือขาดแคลนพลังงานได้

ในการประชุมครั้งสำคัญที่จะถึงนี้ กลุ่มเอกอัครราชทูตยุโรปได้เตรียมหารือถึงการคว่ำบาตรรัสเซียที่ต้องยกระดับความรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจครอบคลุมถึงการนำเข้าถ่านหิน ภายหลังจากที่ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศห้ามการนำเข้าน้ำมันและถ่านหินจากรัสเซีย แต่ไม่ใช่ก๊าซ เพื่อตอบโต้การกระทำอันโหดร้ายทารุณของรัสเซียในเมืองบูชา ประเทศยูเครน

จนถึงตอนนี้ ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันของรัสเซียยังคงถูกลำเลียงส่งไปยังยุโรป โดยนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มต้นบุกรุกยูเครน ประเทศในยุโรปหลายประเทศได้ประกาศแผนการเตรียมลดการพึ่งพาสินค้าโภคภัณฑ์ของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ประกาศห้ามการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียอย่างชัดเจน เนื่องจากทางยุโรปยังคงขาดตัวเลือกด้านแหล่งพลังงานอื่นๆ อยู่ในระยะสั้น และในขณะที่เขียนบทวิเคราะห์นี้ ลิทัวเนียเป็นเพียงประเทศเดียวในสหภาพยุโรปที่ประกาศไม่ใช้ก๊าซของรัสเซียอย่างเด็ดขาด

ในขณะเดียวกัน เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ปูตินกล่าวว่ารัสเซียจะเรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ซื้อก๊าซในยุโรปจ่ายค่าก๊าซเป็นสกุลเงินรูเบิลของรัสเซีย โดยย้ำว่าการชำระเงินเป็นสกุลเงินยูโรหรือดอลลาร์จะถือว่าเป็นการผิดสัญญาโดยผู้ซื้อ และอาจส่งผลให้สัญญาการซื้อขายถูกระงับ ขณะที่แผนการจัดหาแหล่งพลังงานของยุโรปยังคงดำเนินต่อไป เราลองมาพิจารณาประเด็นสำคัญต่อไปนี้เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า อุปทานแหล่งพลังงานของรัสเซียสำคัญต่อตลาดน้ำมันและก๊าซทั่วโลกอย่างไร และการเปลี่ยนแปลงด้านอุปทานพลังงานนี้ อาจส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง

การผลิตน้ำมันของรัสเซียมีความสำคัญต่ออุปทานทั่วโลกอย่างไร ในปี 2564 น้ำมันของรัสเซียคิดเป็น 12.4% ของปริมาณน้ำมันทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งมากกว่าซาอุดิอาระเบียและเทียบเท่ากับสหรัฐอเมริกา โดยรัสเซียผลิตน้ำมันได้ประมาณ 11.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเกือบ 4.3 ล้านบาร์เรลของปริมาณการผลิตดังกล่าวถูกส่งออกไปยังยุโรปและสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ โลกจะสูญเสียน้ำมันจากรัสเซียมากน้อยแค่ไหน “มัลคอล์ม เมลวิลล์” ผู้จัดการกองทุนพลังงานของ Schroders กล่าวว่า “ตัวเลขคาดการณ์ของแต่ละตลาดอาจแตกต่างกันออกไป แต่คาดว่าโลกจะสูญเสียปริมาณน้ำมันมากถึง 4.5 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือประมาณ 4% ของอุปทานน้ำมันทั้งหมดทั่วโลก ในระหว่างที่รัสเซียยังคงบุกยึดยูเครนอยู่ในขณะนี้
“ก่อนที่รัสเซียจะเข้าบุกยึดยูเครน ตลาดคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตน้ำมันของรัสเซียจะเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันทั่วโลกอันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตลาดคาดว่ารัสเซียจะลดกำลังการผลิตลงซึ่งจะทำให้เกิดภาวะการขาดแคลนน้ำมันอย่างรุนแรง” นายมัลคอล์ม กล่าว
ทั้งนี้ หากรัสเซียเริ่มลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อพื้นที่ต่างๆทั่วโลก ผลกระทบอาจรุนแรงและส่งผลอย่างถาวร เพราะตอนนี้โลกกำลังเผชิญปัญหาการขาดแคลนน้ำมันประมาณ 2.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันได้ โดยล่าสุดการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่งถูกขัดขวางจากหลายปัจจัย ได้แก่ มาตรการควบคุมเงินทุนเคลื่อนย้าย (Capital Controls) ปัญหาการดำเนินธุรกิจที่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance : ESG) และปัญหาด้านกำลังการผลิต
นอกจากนี้ ยังมีความหวังว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่านบางส่วนจะถูกยกเลิก และอิหร่านอาจสามารถผลิตน้ำมันได้เพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม เราจะยังคงขาดแคลนน้ำมันเป็นจำนวนทั้งหมด 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยสถานการณ์การขาดแคลนน้ำมันนี้ ประกอบกับปัญหามูลค่าสินค้าคงคลังที่ต่ำลงจนทุบสถิติ อาจหนุนให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นจนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้
อุปทานก๊าซของรัสเซียมีความสำคัญอย่างมากที่สุดต่อประเทศในยุโรป โดยก๊าซของรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของปริมาณการนำเข้าก๊าซทั้งหมดของยุโรป ระดับปริมาณก๊าซที่ถูกจัดเก็บไว้ในยุโรปมีจำนวนคงเหลือน้อยลงแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ปริมาตรความจุเต็มที่ 25% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยตามฤดูกาลที่ 38% ดังนั้น ถือว่าเหลือให้ใช้น้อยมาก และคณะกรรมาธิการยุโรปยังประกาศยืนยันแล้วด้วยว่าปริมาณก๊าซที่จัดเก็บจะต้องเต็ม 80% ภายในฤดูหนาวหน้า
 “หากก๊าซกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองในภาวะสงคราม ก็นับเป็นเรื่องยากที่จะหาอะไรมาทดแทนการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียได้ ยุโรปกำลังพยายามกระจายอุปทานและค้นหาแหล่งผลิตก๊าซอื่นๆ  โดยตั้งความหวังไว้ที่สหรัฐฯ เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม มันต้องใช้เวลาและกำลังการผลิตก๊าซของสหรัฐฯ ช่วยได้น้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณก๊าซที่รัสเซียจัดหาให้ โดยปัญหาความกังวลที่เกี่ยวข้องกับอุปทานก๊าซส่งผลให้ราคาก๊าซในยุโรปปรับเพิ่มขึ้นเป็น 120 ยูโรต่อเมกะวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งพุ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวถึง 6 เท่า” นายมัลคอล์ม กล่าว
หากในกรณีที่รัสเซียตัดสินใจปิดก๊อกไม่ส่งก๊าซและน้ำมัน คณะกรรมาธิการยุโรปอาจหาวิธีการลดอุปสงค์หรือความต้องการพลังงานทั้ง 2 ชนิดให้น้อยลง ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมหลักอาจปิดตัวลง ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ เยอรมนีและออสเตรียได้เริ่มจัดทำแผนฉุกเฉินเพื่อแบ่งสรรปันส่วนการจ่ายก๊าซในกรณีที่เกิดการขาดแคลนแบบฉับพลันแล้ว ด้วยเงื่อนไขต่างๆที่มีอยู่ตอนนี้ี้ หากรัสเซียตัดสินใจหยุดจ่ายก๊าซ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าปริมาณก๊าซที่ยุโรปจัดเก็บไว้อาจหมดลงภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน 
เศรษฐกิจ ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP