11 พฤษภาคม 2565 : กลุ่มอลิอันซ์ บริษัทผู้ถือหุ้นหลักของ อลิอันซ์ อยุธยา เร่งดำเนินกลยุทธ์รับมือปัญหาสภาพภูมิอากาศของโลก (climate Change) ประกาศเป้าหมายใหม่สำหรับทั้งธุรกิจหลักและการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยจะจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพื้นที่ที่บริษัทฯดำเนินกิจการและกิจกรรมในกว่า 70 ตลาดทั่วโลก ให้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2573 โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
ธุรกิจด้านการลงทุน และ การประกันวินาศภัย (Property & Casualty) ของอลิอันซ์ จะไม่ลงทุนหรือรับประกันการดำเนินกิจการแบบ single-site หรือ stand-alone บางประเภทที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงด้านน้ำมันและก๊าซในอาร์คติกและแอนตาร์กติก หรือความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันชนิดหนักมาก (extra heavy oil) และทะเลลึก โดยภายในต้นปี 2566 อลิอันซ์จะกำหนดให้ผู้ผลิตไฮโดรคาร์บอนขนาดใหญ่ ดำเนินการตามแผนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2573 เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขของการทำประกันและการลงทุน
ดร.กึนเทอร์ ทาลิงเงอร์ หนึ่งในบอร์ดผู้บริหารของกลุ่มอลิอันซ์ รับผิดชอบงานด้านบริหารการลงทุนและ ESG กล่าวว่า “ท่ามกลางสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน ในระยะสั้น แหล่งพลังงานหลัก สำหรับครัวเรือนและบริษัทต่างๆ จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง ผู้กำหนดนโยบายจำเป็นต้องทำงานร่วมกับธุรกิจในการกำหนดเงื่อนไขที่จะเข้ามาช่วยวางแผน รวมถึงเร่งรัดการใช้พลังงานหมุนเวียนในระดับโลก ทั้งนี้ เราไม่ควรละเลยผลกระทบที่น่ากังวลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก ด้วยแนวทางใหม่นี้ อลิอันซ์จะยึดมั่นในคำมั่นสัญญาในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเป็นระบบในระบบเศรษฐกิจ”
อลิอันซ์มุ่งมั่นที่จะดำเนินการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน ผ่านทางธุรกิจประกันภัยและการลงทุนของบริษัท รวมถึงแผนงานด้านความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน ผลที่จะตามมาคือ โครงการพลังงานสีเขียวของบริษัทน้ำมันและก๊าซจะไม่ถูกจำกัดไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม
การดำเนินงานเพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ของภาคพลังงานในระยะกลาง
อลิอันซ์เริ่มจำกัดการให้เงินทุนกับธุรกิจที่ใช้ถ่านหินในปี 2558 ตามมาด้วยการจำกัดการรับทำประกันในปี 2561 และมีเป้าหมายที่จะถอนตัวออกจากอุตสาหกรรมถ่านหินภายในปี 2583 เพื่อที่จะหยุดภาวะโลกร้อนไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียส เศรษฐกิจโลกจำเป็นต้องเลิกใช้พลังงานจากถ่านหินเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนั้น บริษัทและรัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากน้ำมันและก๊าซ ด้วยเหตุนี้ อลิอันซ์ตัดสินใจปรับกลยุทธ์การลงทุนและประกันภัยสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซทั่วโลก โดยแนวทางใหม่นี้เป็นไปตาม ESG Integration Framework และวิธีการที่บริษัทฯ ดำเนินงานอยู่แล้ว
ด้าน คริสโตเฟอร์ ทาวน์เซน บอร์ดผู้บริหารกลุ่มอลิอันซ์ ดูแลธุรกิจประกันระดับโกลบอล ตลาด Anglo ธุรกิจพิจารณารับประกันภัยต่อ และตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนลูกค้าของเราดำเนินการตามแผนปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ จนกว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในสองปี ในปัจจุบัน ภาคพลังงานกำลังมีการเปลี่ยนผ่านครั้งยิ่งใหญ่ โดยมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งช่วยสร้างโอกาสทางด้านธุรกิจครั้งสำคัญสำหรับการสร้างโซลูชั่นและบริการใหม่สำหรับการถ่ายโอนความเสี่ยงใหม่ในภาคพลังงานหมุนเวียน”
ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2573
อลิอันซ์เร่งทำตามเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศสำหรับการดำเนินธุรกิจและแผนทางธุรกิจ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50% ภายในปี 2568 เมื่อเทียบกับปี 2562 ในการบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2573 บริษัทวางแผนที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 70% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม และใช้ไฟฟ้าที่มาจากพลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2566 โดยมีตัวขับเคลื่อนสำคัญได้แก่ การเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2573 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% จากการเดินทางภายในปี 2568 นอกจากนี้ยังจะใช้โซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์
บาร์บารา คารุท-เซลเล บอร์ดผู้บริหารกลุ่มอลิอันซ์ ดูแลสายงานปฏิบัติการ กล่าวว่า “เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เราใช้สองมาตรการสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอลิอันซ์ ประการแรก พนักงาน 155,000 คนของเรามุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และมีส่วนร่วมกับแคมเปญต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในบริษัท ประการที่สอง เราจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก ไอที และยานพาหนะที่เราใช้ให้มุ่งเน้นไปที่การใช้พลังงานหมุนเวียนและการลดการเดินทางเพื่อธุรกิจ ลดของเสีย ลดการใช้ไฟฟ้า และน้ำ สุดท้ายนี้ เรากำลังดำเนินการตามมาตรการที่สำคัญอีกมาตรการหนึ่ง
โดยให้ซัพพลายเออร์ของเราร่วมดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษ เมื่อเราทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งระบบนิเวศ เราจะปกป้องสภาพอากาศได้มากขึ้นและมีก้าวย่างที่สำคัญสู่การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์”
รายงานความยั่งยืนแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด กลุ่มอลิอันซ์ ได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนฉบับที่ 21 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ในการแก้ไขปัญหาความท้าทายเร่งด่วน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความไม่เท่าเทียมกัน และการเลือกปฏิบัติ บริษัทฯ ดำเนินการเพื่อสร้างความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นในการทางธุรกิจหลักของบริษัทฯ ตั้งแต่การสร้างสถานที่ทำงานที่หลากหลายไปจนถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการรับฟังลูกค้า ในปี 2564
ความพึงพอใจของพนักงานต่อวัฒนธรรมองค์กร หรือ Inclusive Meritocracy Index เพิ่มขึ้นเป็น 84 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 (2020: 78) ในส่วนของลูกค้า ก็ยังคงให้คะแนนความพึงพอใจต่ออลิอันซ์ในระดับสูง โดย 78 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทในเครือกลุ่มอลิอันซ์ มีคะแนน Net Promoter Score ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ซึ่งหมายถึงบริษัทฯ เป็นผู้นำด้านความจงรักภักดีในแบรนด์ในตลาดที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอยู่