4 พฤศจิกายน 2559 : ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics มองเศรษฐกิจยังสามารถฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ถึงแม้ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกยังมีสูง คาด ธปท.จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.50% จนถึงปลายปีหน้า
เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยการบริโภคภาคเอกชน การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ และการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดี ในขณะที่ในปีหน้า การส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนเริ่มปรับตัวดีขึ้น ในส่วนของการดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท. นั้นอยู่บนเป้าหมายของอัตราเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งตัวชี้วัดการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีตัวหนึ่งก็คือ output gap โดยเป็นตัวบ่งชี้ระดับผลผลิตมวลรวมประชาชาติ (GDP) ว่าต่างจากระดับผลผลิตศักยภาพเท่าใด
หากระดับ GDP อยู่เหนือระดับศักยภาพ output gap จะเพิ่มขึ้นจนเป็นบวก แล้วเกิดมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ธปท. ก็สามารถขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจลง ในทางตรงข้าม หาก output gap ลดลงจนกระทั่งติดลบ ก็สามารถลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้หากไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ถ้าพิจารณา output gap ของไทยจะเห็นว่า ค่อย ๆ ลดลงตั้งแต่ปี 2012 จนกระทั่งติดลบในช่วงปี 2014 เนื่องจากความไม่สงบทางการเมืองในขณะนั้น ธปท. จึงใช้นโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงต่อเนื่อง จาก 2.75% ในปี 2012 เหลือ 1.50% ในปี 2015 จนถึงปัจจุบัน
แต่จากสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มปรับดีขึ้นตั้งแต่ปี 2015 ทำให้ output gap เริ่มขยับสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตามคาดการณ์ของศูนย์วิเคราะห์ฯ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ 3.3% และ 3.5% ในปี 2016 และ 2017 ตามลำดับ ทำให้ output gap เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและกลับเป็นบวกได้ในปี 2017
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ output gap จะกลับเป็นบวก แต่เศรษฐกิจไทยยังไม่มีความกดดันด้านเงินเฟ้อ โดยอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.4% และ 2.0% ในปี 2016 และ 2017 ซึ่งยังไม่เกินเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ ธปท. กำหนด อีกทั้ง ยังมีความผันผวนจากเศรษฐกิจและการเมืองต่างประเทศที่น่ากังวล โดยความผันผวนดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการไหลเข้าของเงินทุนอย่างรุนแรง ทำให้ค่าเงินบาทเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกและนำเข้าได้ แต่ ธปท. ก็มีเครื่องมือทางตลาดการเงินต่าง ๆ เพื่อดูแลสภาพคล่องในประเทศและดูแลค่าเงินบาท จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินนโยบายการเงินผ่านกลไกดอกเบี้ย
ศูนย์วิเคราะห์ฯ คาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ต่อเนื่องยาวถึงสิ้นปีหน้า เนื่องจากยังเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงที่ยังไม่มีความกดดันด้านเงินเฟ้อ และเพื่อรอดูทิศทางเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต