21 เมษายน : นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength Rating: IFS Rating) จากฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ที่ ‘A-’ หรืออยู่ในระดับ “แข็งแกร่ง” และคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating หรือ IDR) ที่ ‘BBB+’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ พร้อมกันนี้ ฟิทช์ยังคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating) ที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นอันดับเครดิตในระดับประเทศที่สูงที่สุดแล้ว
ทั้งนี้ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทฯ สะท้อนถึงโครงสร้างธุรกิจประกันชีวิตที่แข็งแรง ระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ฐานะทางการเงินที่มั่นคงของบริษัทฯ โดยฟิทช์ เรทติ้งส์ ให้ความเห็นว่า การประกาศคงอันดับเครดิต โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพนั้น สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทฯ ที่สามารถรักษาผลประกอบการให้มีเสถียรภาพและรักษาความแข็งแกร่งของระดับเงินกองทุน เนื่องจากบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับอัตรากำไร และนโยบายการลงทุนที่อยู่ในเกณฑ์ดี มีโครงสร้างธุรกิจ (Business Profile) ที่แข็งแกร่ง (Favorable) และการมีบรรษัทภิบาลที่ดี (moderate/favorable) เมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตอื่นภายในประเทศไทย
บริษัทฯ ยังคงมีเครือข่ายทางธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ โดยบริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ระดับ 12%-13% ของจำนวนเบี้ยประกันภัยรวมของตลาด และยังได้รับการสนับสนุนด้านการดำเนินงานและด้านเทคนิคจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการกระจายตัวของโครงสร้างธุรกิจที่ดี ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ครอบคลุม และฐานลูกค้าภายในประเทศรวมถึงช่องทางการขายที่หลากหลาย ดังนั้น ฟิทช์ เรทติ้งส์ จึงจัดให้โครงสร้างการดำเนินงานของเมืองไทยประกันชีวิต ที่ระดับ ‘a-’ ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาปัจจัยเครดิตของฟิทช์
บริษัทฯ สามารถดำรงระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยรองรับการผันผวนของสินทรัพย์และผลกระทบจากความเสี่ยงด้านลบ โดยบริษัทฯ มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฏหมายที่ 316% ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2564 ซึ่งยังคงสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้ที่ 120%
ฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดว่าระดับเงินกองทุนของบริษัทฯ น่าจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฏหมายมากกว่า 300% อีกทั้ง ยังคาดว่าการออกตราสารด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของบริษัทฯ เมื่อเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ยังจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฐานะเงินกองทุนของบริษัทฯ โดยฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทฯ จะอยู่ในระดับต่ำกว่า 25% ซึ่งจะดีกว่าค่าเฉลี่ยตามเกณฑข์องฟิทช์ เรทติ้งส์ ที่ช่วงอันดับเครดิตปัจจุบัน
บริษัทฯ ยังคงมีปริมาณสินทรัพย์เสี่ยง (ตามนิยามของฟิทช์) ในระดับที่ค่อนข้างสูง จากการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน และตราสารหนี้ภาคเอกชนพื่อรักษาผลตอบแทนโดยรวม โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2564 บริษัทฯ มีอัตราส่วนสินทรัพย์
สำหรับบริษัทประกันชีวิตที่มี อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้
นายสาระ กล่าวเสริมว่า เมืองไทยประกันชีวิตให้ความสำคั
พร้อมดำเนินกลยุ
ความมั่งคั่ง (Wealth Leader) ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ช่องทางการขาย และการบริการ ผ่านนวั
พร้อมสร้างความมั่งคั่งและมั่