28 มีนาคม 2565 : นายพีรพงศ์ นิธิไกรวุฒิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และในปีนี้ยังมีหลายปัจจัยที่เป็นแรงกดดันต่อผู้ประกอบการ เช่น สถานการณ์ของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง วัตถุดิบการเกษตร เป็นต้น
โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2565 ว่าจะขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.6% ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ขยายตัวเพียง 1.6% เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่เริ่มสูงขึ้นเทียบกับใน ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังมีแรงหนุนหลักจากการส่งออกที่มีแนวโน้มดีขึ้นตั้งแต่ในปี 2564 ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ดังนั้น การบริหารสภาพคล่องและเงินทุนจึงเป็นเรื่องสำคัญในสภาวการณ์ดังกล่าว เพื่อไม่ให้ธุรกิจสะดุดหรือพลาดโอกาสทางธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยความเข้าใจในปัญหาของเอสเอ็มอี เพื่อตอบโจทย์ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในยุคนี้ด้วย “ทีทีบี เอสเอ็มอีสมาร์ท แอนด์ ฟาสต์” (ttb sme smart and fast) ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มาช่วยเสริมสภาพคล่องเร่งด่วนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 200 ล้านบาท ไม่พลาดโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากอนุมัติไว รู้ผลได้เร็วสุดภายใน 7 วัน วงเงินเพียงพอเหมาะสม สูงสุดถึง 10 ล้านบาท ที่มีทั้งวงเงินสินเชื่อเบิกเกินบัญชี (O/D) และวงเงินกู้ระยะยาว (Long Term Loan) เพื่อการลงทุนในกิจการผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 12 ปี โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
นอกจากนี้ เมื่อผู้ประกอบการได้วงเงินแล้ว การบริหารจัดการไม่ว่าจะเป็นการเช็คยอดเงินและเบิกใช้วงเงินก็เป็นอีกเรื่องที่สร้างความปวดหัวให้ผู้ประกอบการไม่น้อยเพราะไม่สะดวกและการเบิกใช้หรือโอนจ่ายจากบัญชี O/D ก็ยังมีค่าใช้จ่ายการโอนที่ไม่จำเป็นต้องเสีย โดยผู้ประกอบการสามารถเข้าใช้ ttb business one ได้จากทุกอุปกรณ์ มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีได้เหมือนกันหมด สามารถดูยอดวงเงินสินเชื่อที่มีได้ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมสามารถโอนออกฟรี! เมื่อใช้งานคู่กับบัญชีธุรกิจ ttb sme one bank