2 พฤศจิกายน 2559 : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในขณะนี้การจำหน่ายสลากเกินราคาได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น พบว่ามีการนำสลากมารวมชุด เพื่อจำหน่ายสูงเกินราคาที่กำหนด 80 บาท โดยสำนักงานฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลจากทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด ปรากฏว่าในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมามีประชาชน ร้องเรียนผ่าน Call Center 0-2345-1466 กว่า 1,295 รายการ
โดยมีสถิติการร้องเรียนเรื่องสลากเกินราคาเพิ่มความถี่มากขึ้นตามลำดับ ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคโดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ จากเดือนสิงหาคม 2559 จำนวน 318 ราย เดือนกันยายน 2559 จำนวน 439 ราย และ สูงที่สุดในเดือนตุลาคม 2559 จำนวน 538 ราย ที่ผ่านมาสำนักงานฯ ได้ดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ถึง 166 ราย และยังคงเดินหน้าควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ระหว่างวันที่ 30 – 31 ตุลาคม 2559 ได้มีการตรวจสอบจับกุมเพิ่มอีก 321 ราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี กาญจนบุรี และชลบุรี โดยผู้ถูกจับกุมทั้ง 321 รายถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ คือปรับรายละไม่เกิน 10,000 บาท และหากเป็นตัวแทนจำหน่ายจะถูกยกเลิกสัญญาทันที พร้อมทั้งขึ้นบัญชีรายชื่อ (Black list) ไม่ทำสัญญาในครั้งต่อไป
สำหรับ ผู้ที่ซื้อ-จองล่วงหน้า ก็จะถูกตัดสิทธิ์การลงทะเบียนทันที โดยในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา มีผู้จำหน่ายสลากเกินราคาถูกจับกุมแล้วรวมทั้งสิ้น 487 ราย ในจำนวนนี้มีตัวแทนจำหน่ายถูกยกเลิกสัญญา 153 ราย ถูกตัดสิทธิ์การลงทะเบียนโครงการซื้อ-จองล่วงหน้าฯ 57 ราย ทั้งนี้ ในการยกเลิกสัญญาตัวแทนดังกล่าว
– กรณีเป็นตัวแทนจำหน่ายส่วนกลาง สำนักงานฯ สามารถดำเนินการยกเลิกได้ทันที
– กรณีเป็นตัวแทนจำหน่ายส่วนภูมิภาค สำนักงานฯ จะแจ้งให้จังหวัดดำเนินการยกเลิกและส่งรายชื่อตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ พร้อมทั้งจัดทำสถิติของแต่ละจังหวัดเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดสรรสลากให้แต่ละจังหวัดต่อไป
หลังจากนี้ ในการต่อสัญญาการรับสลากไปจำหน่ายของตัวแทนจำหน่ายสลากที่จะมีการทำสัญญาในคราวต่อไป ระหว่างวันที่ 19-25 พฤศจิกายน 2559 (อายุสัญญา 16 ธันวาคม 2559 – 1 มิถุนายน 2560) เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างใกล้ชิดและคาดการณ์ได้ถึงผลสัมฤทธิ์ในการคัดกรองตัวแทนจำหน่ายสลากที่เป็นผู้จำหน่ายสลากอย่างแท้จริง สำนักงานฯ ได้เพิ่มเติมประเด็นสำคัญ ในสัญญาการรับสลากไปจำหน่ายและในประกาศหลักเกณฑ์การจำหน่ายสลากโครงการซื้อ-จองล่วงหน้า ฯ ดังนี้
* ตัวแทนจำหน่ายสลากส่วนกลาง/ส่วนภูมิภาค และสมาคม องค์กรมูลนิธิคนพิการ เพิ่มเติมรายละเอียดในสัญญา ดังนี้
“ผู้ขายต้องไม่นำสลากของตนไปรวมชุดกับผู้อื่น หรือนำสลากของผู้อื่นมาขายร่วม หรือนำสลากของตนไปขายให้แก่ผู้อื่นเพื่อนำไปรวมชุด หรือแลกเปลี่ยนสลากกับผู้อื่น หรือหากตรวจพบว่าสลากของตนไปวางไว้เพื่อเตรียมจำหน่ายที่จุดจำหน่ายของผู้อื่นที่ระบุไว้ในข้อที่ 11 ให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นไม่ได้ขายสลากด้วยตนเองและถือว่าผู้ขายผิดสัญญา”
และ “ตัวแทนจำหน่ายสลากยินยอมให้ความสะดวกและความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ ในการตรวจสอบสถานที่จำหน่ายของตัวแทน หากไม่ให้ความร่วมมือให้ถือว่าตัวแทนประพฤติผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้สำนักงานฯพิจารณาบอกเลิกสัญญาได้ทันที”
พันโทหนุน ศันสนาคม กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ในส่วนของการตรวจสอบการจำหน่ายสลากของมูลนิธิ สมาคม องค์กรคนพิการนั้น หากตรวจพบสลากฯที่ขายเกินราคา หรือสลากฯที่สมาชิกไม่ได้ขายเอง หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งที่ผิดต่อสัญญาที่ทำไว้กับสำนักงานฯ ถ้าตรวจพบครั้งที่ 1 จะมีหนังสือแจ้งมูลนิธิ สมาคม องค์กรคนพิการพร้อมหลักฐานการกระทำผิดของสมาชิก ให้สมาคมฯ ตรวจสอบและยกเลิกสมาชิกรายนั้น รวมทั้งเร่งแจ้งเปลี่ยนสมาชิกรายใหม่ให้สำนักงานสลากฯทราบ หากตรวจพบเป็นครั้งที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกรายใดทำผิดอีกก็ตาม สำนักงานฯ จะดำเนินการเหมือนกับการตรวจพบครั้งที่ 1 ทุกประการ
และหากมีการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันอีกเป็นครั้งที่ 3 สำนักงานสลากจะแจ้งพร้อมหลักฐานและจะตัดโควตาสลากเท่ากับจำนวนที่ตรวจพบว่าสมาชิกของสมาคมฯ ทำผิด และจะขึ้นบัญชีรายชื่อสมาชิกดังกล่าวไว้ เพื่อไม่ให้สามารถรับโควตาจากสำนักงานฯ ได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะแบบโควตาหรือแบบซื้อ – จองล่วงหน้าฯ ทั้งนี้เมื่อตรวจพบการกระทำผิดในครั้งต่อๆ ไปอีก ก็จะดำเนินการในลักษณะนี้โดยตัดโควตาออกไปเรื่อยๆ เพื่อจะได้นำสลากฯไปให้กับผู้ที่ทำถูกต้องต่อไป จึงขอให้มูลนิธิ สมาคม องค์กรคนพิการ ช่วยกำกับดูแลสมาชิกให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับสำนักงานสลากฯ ด้วย
พันโทหนุน ฯ ได้กล่าวย้ำว่า ได้กำชับให้ มูลนิธิ สมาคม องค์กรคนพิการ ไปดูแลสมาชิกให้ทั่วถึงและเท่าเทียมรวมทั้งจัดลำดับความเร่งด่วนให้ดีด้วย เพราะเท่าที่ผ่านมามักมีสมาชิกบางองค์กรเรียกร้องว่าไม่ได้รับการดูแลในเรื่องของการจัดสรรโควตาสลากฯ ทั้งที่สำนักงานฯ ได้จัดสรรสลากให้แล้ว และพฤติกรรมของแต่ละมูลนิธิ สมาคม องค์กร จะส่งผลต่อการพิจารณาคัดเลือกตัวแทนในการทำสัญญาในรอบใหม่ต่อไป
พลตรีฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำนักงานฯคาดการณ์ว่าการแก้ไขเพิ่มเติมในสัญญาและในประกาศหลักเกณฑ์การซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ จะทำให้การตรวจสอบสลากที่จำหน่ายบนแผงจำหน่ายสลาก สามารถดำเนินการได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น ทั้งนี้สำหรับสลากที่ถูกยกเลิกสัญญา จะนำมาเข้าสู่โครงการซื้อ-จองล่วงหน้าฯ สร้างประโยชน์ให้กับผู้จำหน่ายจริงได้มีโอกาสเข้าถึงสลากได้มากขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ขายจริงมีโอกาสในการทำรายการจองสลากล่วงหน้าฯ ได้มากขึ้น จึงได้ปรับวันจ่ายสลากจองที่ไปรษณีย์ปลายทางจากเดิม วันที่ 2 และวันที่ 17 ของเดือน เปลี่ยนเป็นวันที่ 7 และ 22 ของเดือน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการจำหน่ายสลากของตลาดวังสะพุง ทั้งนี้ เพื่อทำให้ยี่ปั๊วไม่มีเวลาในนำสลากจองไปรวมชุดซึ่งจะส่งผลให้ผู้ค้ารายย่อยทำรายการสลากจองล่วงหน้าได้มากขึ้นและมีสลากจำหน่ายในแผงสลากมากขึ้นด้วย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธนวรรธน์ ฯ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่าสำนักงานฯ ขอให้ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการจัดสรรสลาก หรือผู้ที่ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ เมื่อได้รับสลากแล้ว ให้จำหน่ายด้วยตนเอง หากตรวจพบว่าไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายสลากอีกเลย นอกจากนี้สำนักงานฯยังทราบว่าขณะนี้ มีบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นนายทุนกว้านซื้อสลาก แล้วนำไปรวมชุดจำหน่ายในราคาแพงมาก ขอให้เลิกพฤติกรรมเอาเปรียบดังกล่าว
สุดท้ายขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนผู้ซื้อปกป้องสิทธิของตนเองจากการเอารัดเอาเปรียบของผู้จำหน่ายสลากเกินราคา และหากพบการจำหน่ายสลากเกินราคา โปรดแจ้งข้อมูลมาที่ call center 0 2528 9999 และ 0 2345 1466 เพื่อจะได้เร่งดำเนินการตรวจสอบ จับกุมและสำนักงานฯจะแถลงความคืบหน้าเป็นจำทุกเดือนต่อไป