21 มีนาคม 2565 : นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนธุรกิจในระยะ 3 ปี จากนี้ (2565-2567) ต้องเติบโตเฉลี่ยปีละ 50% พร้อมขยายสายงานให้ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจภายใต้ฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งกว่า 30,000 ล้านบาทโดยปราศจากภาระอัตราดอกเบี้ย ด้วยเงินลงทุนจากพันธมิตรบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) หรือ BTS ที่ 17,500 ล้านบาท ด้านบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เพิ่มทุนโดยขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) โดยเจมาร์ทเพิ่มทุนให้กับ JMT และผู้ถือหุ้นเดิมรวม 10,000 ล้านบาท ส่วนบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U มาร่วมทุนให้บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER อีก 10,000 ล้านบาท
โดยปีที่ผ่านมามีบริษัทมีกำไร 1,250 ล้านบาท และมีกำไรพิเศษจากมูลค่าหุ้นของซิงเกอร์ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1,200 รวมแล้วมีกำไร 2,450 ล้านบาท หากจะเติบโตตามเป้าหมายอีกปีละ 50% ก็จะมองจากฐานกำไร 1,250 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทางด้านบริษัทในเครือบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT วางเป้าหมายซื้อหนี้เสียเข้ามาบริหารอีก 10,000 ล้านบาท รวมถึงการตั้งบริษัทร่วมทุนบริหารหนี้กับสถาบันการเงิน ( JV AMC) กับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ที่มีความคืบหน้าไปมากรวมถึงสถาบันการเงินอีกหลายแห่งที่เข้าร่วมจัดตั้ง JV AMC ดังกล่าว
ทั้งนี้ การเติบโตกำไรของกลุ่มฯมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.เทคโนโลยี 2. คอมเมิร์ช 3.ไฟแนนซ์ มั่นใจว่า ด้วยศักยภาพของธุรกิจในเครือหนุนให้กำไรกลุ่มฯแต่ละปีเป็นไปตามเป้าหมายได้ นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเงินลงทุนเบื้องต้นกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนและซื้อกิจการใหม่ๆเพิ่มเติม
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT กล่าวว่า บริษัทพร้อมขยายพันธมิตรทางธุรกิจบริหารหนี้เพิ่มเติม หลังจากได้ร่วมจัดตั้ง JV AMC กับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือKBANK อย่างเป็นทางการไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งใกล้ลงนามสัญญาแล้ว โดยมีสถาบันการเงินอีกหลายรายเข้ามาเจรจาในการขอจัดตั้งJV AMC ดังกล่าว
ส่วนแผนการรับซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คาดว่าจะไหลออกมาสู่ระบบในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ สำหรับหนี้เสียในปีนี้มองว่าสูงกว่าในอดีตที่มีการจัดทำมาตราฐานบัญชีใหม่ IFRS 9ที่มีหนี้เสียเพิ่มขึ้นจากธนาคาารพาณิชย์และนอนแบงก์รวมกันเกือบ 500,000 ล้านบาท ขณะที่ประเทศไทยได้ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้หนี้เสียล้นระบบสูงถึง 2ล้านล้านบาท คาดว่าจะมีหนี้ไหลออกมาให้บริหารมากถึง 300,000 ล้านบาทในปีนี้ ทางJMT ได้เตรียมเงินเพื่อซื้อหนี้เบื้องต้น 10,000 ล้านบาท
นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรปีนี้เติบโตเท่า ด้วยโปรเจกต์ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีต่างๆมากขึ้น ด้วยการจัดตั้งบริษัท เจ ดี กรุ๊ป จำกัด (JayDee Group) เพื่อรุกธุรกิจค้าปลีกครบวงจร พร้อมกับนำมือถือจำหน่ายผ่านธุรกิจในเครืออย่างซิงเกอร์
นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอแอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J กล่าวว่า บริษัทปักหมุดธุรกิจสู่ Senior Wellness ด้วยการขยายศูนการค้าชุมชน(คอมมูนิตี้)ไม่ต่ำกว่า 1 สาขาต่อปี โดยสาขาที่ 6 ได้เปิดทำการที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พร้อมขยายตลาดเฮลแคร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แผนงานดังกล่าวมั่นใจว่าช่วยผลักดันกำไรของกลุ่มฯเติบโตตามเป้าหมายที่ 50% ต่อปีได้แน่นอน