บลจ.กสิกรไทย ส่งกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุโครงการ 3 เดือน และ 6 เดือนเสนอขายต่อเนื่อง เปิดโอกาสรับผลตอบแทน 1.35% – 1.50% ต่อปี เปิดเสนอขาย 1-7 พฤศจิกายนนี้
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 1-7 พฤศจิกายน 2559 เปิดเสนอขายกองทุนเปิดเคตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีเอฟ (KFF6MCF) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.50% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เอไอ (KFF3MAI) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.35% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
สำหรับภาวะตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายชัชชัยกล่าวว่า “อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุตราสารและมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นสอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรโลก เนื่องจากนักลงทุนในตลาดคาดว่าเฟดจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในเดือนธันวาคม
โดยตลาดคาดว่ามีโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนธันวาคมอยู่ที่ระดับ 73% ส่วนแนวโน้มทิศทางอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นมีแนวโน้มทรงตัวตามทิศทางดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับ 1.50% ต่อปี ไปจนถึงสิ้นปี
นายชัชชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก หรือผู้ที่ต้องการแบ่งเงินลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงมาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ บลจ.กสิกรไทยได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนที่แน่นอน โดยสามารถเลือกลงทุนเป็นเวลา 3 เดือน หรือ 6 เดือน
ทั้งนี้ สำหรับ กองทุน KFF6MCF ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation, เงินฝาก Commercial Bank of Qatar, ประเทศกาตาร์, เงินฝาก First Gulf Bank และเงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Qatar National Bank ด้านกองทุน KFF3MAI ที่มีอายุโครงการ 3 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก China Construction Bank Corporation, เงินฝาก Union National Bank และเงินฝาก First Gulf Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกทั้งยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Qatar National Bank โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนและผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
รวมไปถึง ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจัดการ จะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย