28 กุมภาพันธ์ 2565 : นายเฉลิมพล โขนแจ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอปัส ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด กลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในโซน พัทยา จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ในปี 2565 ทางกลุ่มบริษัทเอปัสฯ วางแผนการพัฒนาโครงการใหม่ประมาณ 4 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 3 โครงการรวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่วนอีกโครงการจะเปิดตัวในไตรมาส 2 ปีนี้ เป็นคอนโดมิเนียม ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 2 ไร่ครึ่ง คือ โครงการอารมณ์ หาดจอมเทียน มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดยทุกโครงการที่พัฒนามีจุดเด่นทำเลที่ตั้งและการออกแบบโปรดักส์ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
สำหรับความคืบหน้าด้านการขายโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวไปในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป้าหมายค่อนข้างดีแม้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเผชิญกับวิกฤติการระบาดของโควิด - 19 แต่ยอดขายรวมจากโครงการต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัทเอปัสฯอยู่ในระดับที่ค่อนข้างพอใจ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ “อารมณ์ วงศ์อมาตย์” ที่เปิดตัวในช่วงเดือน กรกฎาคม 2563 มียอดขายแล้วกว่า 50 % โครงการดังกล่าว ตั้งอยู่บนพื้นที่ 8 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของซูเปอร์ลักชัวรี่คอนโดมิเนียมระดับหรู สูง 55 ชั้นจำนวน 319 ยูนิต มูลค่าโครงการเกือบ 3,700 ล้านบาท
ส่วนโครงการ “แอนโดรเมดา” เขาพระตำหนักเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100 % มูลค่ารวมเกือบ 1,300 ล้านบาทนั้น มียอดขายแล้ว 80 % ตั้งเป้าปิดการขายภายในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยมีบริษัท เวลา เรียล เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอเจ้นท์ซี่ช่วยวางแผนงานด้านการตลาดและการขาย
พร้อมกันนี้นายเฉลิมพล ยังกล่าวให้ความเห็นว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 มีผลกระทบต่อตลาดรวมที่อยู่อาศัยในพัทยา เป็นตลาดที่พึ่งลูกค้าต่างชาติ หากใครทำโปรดักส์ที่เจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติกระทบแน่นอน แต่ยังมีคนไทยค่อนข้างมากที่ต้องการซื้ออสังหาฯในพัทยาเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง หรือต้องการอยู่อาศัยจริง ซึ่งทางกลุ่มเอปัสฯเน้นการทำโปรดักส์ที่สร้างจุดเด่นในเรื่องทำเลที่ตั้งเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย
“การทำโปรดักส์จะต้องมีความแม่นยำ จะทำเป็นแมสเหมือนอดีตไม่ได้ ต้องมองหน้าคนซื้อให้ออก ซึ่งผมยังเชื่อมั่นว่าศักยภาพของชลบุรีซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่อยู่ในแผนพัฒนา EEC ที่รัฐบาลได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆโดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินเมื่อสร้างเสร็จ และเมืองพัทยาเป็นจุดหนึ่งที่มีสถานีรถไฟความเร็วสูงจอดให้บริการ ปัจจัยบวกเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวและอสังหาฯเติบโตต่อเนื่อง”นายเฉลิมพล กล่าว
ด้านนางสาวชลธิชา เสนารีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวลา เรียล เอสเตท จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขายอสังหาริมทรัพย์ กล่าวให้ความเห็นว่า แม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วทั้งประเทศซึ่งก็รวมถึงจังหวัดชลบุรีอยู่ในภาวะชลอตัวลง
แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังมีความมั่นใจว่าตลาดอสังหาฯ โซนพัทยา ชลบุรีจะไม่หยุดการเติบโต สะท้อนภาพได้จากยอดลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่นั้นยังมีอย่างต่อเนื่อง สัญญาณนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับยังมีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกหลายโครงการที่รอจังหวะเปิดตัวและอยู่ระหว่างยื่นขอ EIA (Environmental Impact Assessment) เป็นโครงการของทั้งผู้ประกอบการอสังหาฯใหญ่จากท้องถิ่น และอสังหาฯรายใหญ่จากส่วนกลางกรุงเทพฯ
ด้วยเพราะมองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของทั้งตลาดผู้บริโภคและการลงทุนเปิดโครงการใหม่ในอนาคต ทำให้บริษัทฯวางแผนงานธุรกิจยาว 5 ปี คือขยายขอบข่ายการบริการให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้นในลักษณะธุรกิจแบบ B2B พร้อมกับการเพิ่มจำนวนลูกค้าโครงการที่เข้าไปรับเป็นที่ปรึกษาการลงทุน บริการการขายและการตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุยหลายราย
จากปัจจุบันโครงการที่รับบริหารงานขายและการตลาดหลักๆจะเป็นของกลุ่มบริษัทคัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ และเอปัส ดีเวลลอปเม้นท์ อาทิ โครงการอารมณ์ วงศ์อมาตย์ (AROM WONGAMAT) โครงการแอนโดรเมดา(ANDROMEA) รวมทั้งโครงการ อารมณ์ จอมเทียน คอนโดมิเนียม Luxury ที่จะกำลังเปิดตัวในไตรมาส 2 ของปีนี้ เป็นต้น
ทั้งนี้ สำหรับ โครงการ “แอนโดรเมดา” เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100 % ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2562 ตั้งอยู่ ซ.เกษตรสิน 11 บนเนื้อที่ 1-2-83.6 ไร่ ( 683.6 ตารางวา) พัฒนาเป็นอาคารสูง 36 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวนห้องพักอยู่อาศัยทั้งสิ้น 216 ยูนิต ห้องชุดเริ่มต้น 1–2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 28-75 ตร.ม.รวมมูลค่าเกือบ 1,300 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% โดยลูกค้าที่ซื้อนั้นมีทั้งชาวต่างชาติและลูกค้าคนไทยในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ทั้งนี้โครงการมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 6 แบบให้เลือกในราคาขายเริ่มต้น 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. หรือ ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาทต่อยูนิต ( ณ กุมภาพันธ์ 2565) ดังนี้
· แบบ studio type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28,29 ตร.ม.จำนวน 64 ยูนิต คิดเป็น 30%
· แบบ one bedroom type B ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33,34 ตร.ม.จำนวน 66 ยูนิต คิดเป็น 30%
· แบบ one bedroom type C ขนาดพื้นที่ใช้สอย 54 ตร.ม.จำนวน 22 ยูนิต คิดเป็น 10%
· แบบ two bedroom type D ขนาดพื้นที่ใช้สอย 60 ตร.ม.จำนวน 32 ยูนิต คิดเป็น 10%
· แบบ two bedroom type E ขนาดพื้นที่ใช้สอย 72 ตร.ม.จำนวน 22 ยูนิต คิดเป็น 15%
· แบบ two bedroom type F ขนาดพื้นที่ใช้สอย 75 ตร.ม.จำนวน 10 ยูนิต คิดเป็น 5%
ภายในโครงการ “แอนโดรเมดา” พัทยา ยังออกแบบโครงการให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตในรูปแบบที่ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์เดิมๆมีความ Unique สะท้อนความเป็นส่วนตัวในทุกๆ ยูนิตซึ่งทางเจ้าของโครงการคือ เอปัส ดีเวลลอปเม้นท์ ได้จับมือกับทีมงานคุณภาพที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ อาทิ สถาปนิกโดยบริษัท KTGY, ออกแบบภายในโดยบริษัท MakeAscene, และ Landscape โดยบริษัทVISTAPAGODA นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล Best High Rise Condo Architectural Design (Resort) จาก Thailand Property Awards ประจำปี 2017 ด้วย
นอกจากนี้ ยังเพียบพร้อมด้วยส่วนกลางแบบจัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายถึงขีดสุด อาทิ ลิฟต์โดยสาร, สิฟต์ขนของ, Sky lounge, Infinity egde sky pool, Fitness center, Libary room, Meetingroom, Jaguzzi & hydrotherapy, Panoramic Spa Pool, Freespace garden, Play room, Entertainment room, Steam & sauna room, Landscaped gardens, Proximity card access, Motion sensor lighting รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย (Full Security system) ตลอด 24 ชั่วโมงทั้ง CCTV, Access control, Alarm system และ Door lock system เป็นต้น สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทร 084-2135777 หรือที่ www. https://apus.co.th/th/andromeda-th
“จำนวนหน่วยที่เหลือขายราวๆ 20% สุดท้ายส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่มีขนาด 32 , 52 ตารางเมตรและเป็นห้องที่เห็นวิวทะเลแบบ 270˚ เราและบริษัทเจ้าของโครงการวางแผนการทำการตลาดที่เข้มข้นมาก เพื่อจะทำการปิดการขายให้หมดเร็วที่สุด ซึ่งบอกได้เลยว่าตลาดอสังหาฯช่วงนี้เป็นตลาดของผู้ซื้อจริงๆ” นางสาวชลธิชา กล่าวในตอนท้าย