22 กุมภาพันธ์ 2565 : นางสาวอภิญญา เรืองทวีคูณ Managing Director บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด (Kubix) เปิดเผยว่า หลังได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ให้สามารถประกอบธุรกิจให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) เต็มรูปแบบ Kubix ร่วมกับ GDH และ บรอดคาซท์ ไทยฯ ในการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Whitepaper) ขาย “เดสทินี โทเคน” (DESTINY TOKEN) จากภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส ๒” ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานก.ล.ต. และจะเปิดให้มีการจองซื้อผ่าน แอป Kubix เมื่อโครงการได้รับการอนุมัติแล้วต่อไป
ผู้ลงทุนสามารถเลือกร่วมลงทุนกับ DESTINY TOKEN ได้ 3 รูปแบบ คือ I am Glad Token ราคา 5,559 บาท จำนวน 15,559 โทเคน I am Delighted Token ราคา 155,559 บาท จำนวน 459 โทเคน และ I am Happy Token ราคา 1,555,559 บาท จำนวน 69 โทเคน รวมทั้งหมด 16,087 โทเคน มูลค่าระดมทุนกว่า 265 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนไม่เกิน 2 ปี
โดยผู้ถือโทเคนทุกรูปแบบจะได้รับเงินผลตอบแทนพื้นฐานที่ 2.99% ต่อปี และจะได้ผลตอบแทนพิเศษเพิ่มอีก 2.01% ต่อปี เมื่อภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ มีรายได้ Box Office ทั่วประเทศตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท ขึ้นไป อีกทั้งจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายตามประเภทของโทเคนที่ถือด้วย เช่น สิทธิการร่วมชมภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ รอบพิเศษก่อนใคร การปรากฎชื่อในเครดิตท้ายภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ ในฐานะ Special Destiny Executive Producer รวมทั้งชุดของที่ระลึกคอลเลกชั่นสุดพิเศษ
ด้านนางสาวจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด กล่าวว่า จากความสำเร็จของ “ออเจ้าฟีเวอร์” ที่สร้างปรากฏการณ์โด่งดังไปทั่วเมือง ทางจีดีเอชจึงต้องการต่อยอดมอบความสุขให้กับผู้ชมอีกครั้ง ด้วยการนำไอเดียของคำว่าบุพเพสันนิวาสที่ต้องเกิดมาเจอกันทุกชาติทุกภพ มาสร้างเป็นภาพยนตร์ไทย โดยมีทีมงานมืออาชีพอย่างพี่เก้ง-จิระ มะลิกุล มาเป็นโปรดิวเซอร์ และได้ ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม รับหน้าที่ผู้กำกับ
รวมทั้งยังได้นักแสดงคู่ขวัญ โป๊ป-ธนวรรธน์ และ เบลล่า-ราณี ร่วมด้วย ไอซ์-พาริส ฯลฯ มาร่วมแสดง ทำให้มั่นใจมากว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะตราตรึงใจของผู้ชมทั่วประเทศอีกครั้ง และในการต่อยอดที่จะทำให้ภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ ประสบความสำเร็จได้นั้น มีการปรึกษาหารือกันว่า อยากทำอะไรที่พิเศษและแตกต่าง อยากให้ผู้ชม และแฟนๆ ภาพยนตร์ ได้มีส่วนร่วมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เป็นผู้ชมเพียงอย่างเดียว จึงเกิดจุดเริ่มต้นของโทเคนดิจิทัลที่มานำเสนอในตลาด เพื่อให้แฟนๆ และผู้ชมคนดูหนังไทยได้มีโอกาสเป็นผู้ร่วมลงทุนในภาพยนตร์ไทยที่ตนเองชื่นชอบ เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
นางสาวอรุโณชา ภาณุพันธุ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด กล่าวว่า จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ทางจีดีเอชได้ติดต่อมาว่าอยากทำเป็นภาพยนตร์ รู้สึกดีใจมากและเชื่อมั่นว่าจะต้องมีความแปลกใหม่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะจะเป็นการเล่าเรื่องราวในชาติภพต่อไป ที่บุพเพสันนิวาสนำพาให้ทั้งสองได้กลับมาเกิดและเจอกันอีกครั้งในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น รวมทั้งได้มีการปรึกษากันที่จะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาครองใจผู้ชมอีกครั้ง
สำหรับโทเคนตัวนี้ให้สิทธิประโยชน์หลายอย่าง ทั้งมีสิทธิ์ชมภาพยนตร์ก่อนใคร ได้ของพรีเมี่ยมที่หาซื้อไม่ได้ไว้เก็บเป็นที่ระลึก จึงอยากให้แฟนๆ ออเจ้าเข้ามาเป็นส่วนร่วมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ร่วมกันผลักดันธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ให้เติบโตมากขึ้นในอนาคต
นายญาณวิทย์ รักษ์ศรี Managing Director บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด กล่าวในตอนท้ายว่า Kubix ให้ความสำคัญกับผู้ลงทุนเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงและเป็นจุดประสงค์หลักในการออกแบบ DESTINY TOKEN คือ “โทเคนดิจิทัลแบบไหนที่จะตอบโจทย์ทั้งกลุ่มผู้ลงทุนและกลุ่มแฟนภาพยนตร์ไทย?” ทำให้การลงทุนใน DESTINY TOKEN ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงคำว่า “ผู้ลงทุน” เท่านั้น
ยังรวมไปถึง “แฟนภาพยนตร์” ที่สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ภาพยนตร์ที่ชื่นชอบได้ด้วย ซึ่งแอปพลิเคชัน Kubix จะมารองรับการลงทุนในโทเคนดิจิทัลที่เป็นมากกว่าแค่เรื่องของเงิน โดยผู้ใช้งานสามารถรับผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์สุดพิเศษต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนในแอปเดียว ช่วยสร้างสรรค์ประสบการณ์การลงทุนรูปแบบใหม่ ทำให้การลงทุนและการใช้ชีวิตเป็นเรื่องเดียวกัน ตามคอนเซ็ปต์ของ Kubix ที่ว่า Invest Earn Experience
ทั้งนี้ ผู้สนใจ DESTINY TOKEN สามารถเตรียมจองซื้อโทเคนได้ เพียงลงทะเบียนสร้างบัญชีบนแอปพลิเคชัน Kubix โดยตัวแอปจะเปิดให้ดาวน์โหลดในช่วงเดือนมีนาคม 2565 สามารถติดตามข้อมูลของ Kubix และ DESTINY TOKEN เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3LQCPEk, www.facebook.com/kubix.digitalasset หรือติดต่อ Kubix Call Center ที่เบอร์ 02-844-8488
อนึ่ง ภาพยนตร์เรื่องบุพเพสันนิวาส 2 และการเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนโดยใช้ชื่อ “DESTINY TOKEN” เป็นการดำเนินการของบริษัท สเปเชียล เดสทินี จำกัด (Special Destiny) ซึ่งถือหุ้นโดย บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด และบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด เท่านั้น การดำเนินการเสนอขายโทเคนดิจิทัลดังกล่าวจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือช่อง 3 รวมถึงละครโทรทัศน์เรื่อง บุพเพสันนิวาส และพรหมลิขิต แต่อย่างใด
โดย บริษัท สเปเชียล เดสทินี จำกัด ขอรับรองว่า ภาพยนตร์และโทเคนดิจิทัลไม่มีส่วนที่จัดทำขึ้นโดยละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หากมีการใช้งานทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว บริษัท สเปเชียล เดสทินี จำกัด จะดำเนินการขออนุญาตใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาให้ถูกต้องก่อนเผยแพร่สู่สาธารณชน
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน