19 กุมภาพันธ์ 2565 : คุณสุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับข่าวลือ Blacklist บริษัทประกันภัยที่ยังคงมีการเผยแพร่วนเวียนอยู่ใน Social Media และกำลังกลับมาระบาดหนักอีกครั้งตั้งแต่ต้นปี 2565 นั้น ก็ขอยืนยันว่าเป็นข่าวลือฯ เป็นข้อมูลเท็จและเป็นข้อมูลเก่าที่มีมานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
บริษัทฯ เคยดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ที่เผยแพร่และส่งต่อมาแล้วนับสิบราย รวมถึงอดีตเลขาธิการสำนักงาน คปภ. และเลขาธิการฯ คนปัจจุบันก็ได้เคยออกแถลงข่าวแล้วหลายครั้งเพื่อที่จะยืนยันว่าข่าวลือฯ นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และขอให้มั่นใจในบริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัยเข้าสู่ปีที่ 75 แล้วด้วยความมั่นคง โดยมีทุนจดทะเบียนกว่า 1,618 ล้านบาท มีอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง (ตามกฎหมายต้องไม่น้อยกว่า 100%) บริษัทฯ อยู่ที่ 421% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 62% และอัตราส่วนเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (ตามกฎหมายต้องมากกว่า 100%) บริษัทฯ อยู่ที่ 533% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 199%
นอกจากนั้น ในปี 2565 นี้ บริษัทฯ ยังได้จัดแคมเปญ MITTARE CALL OUT โดยเชิญชวนให้ผู้บริหาร ตัวแทนและพนักงานแสดงออกถึงการเรียกร้องให้ยุติการส่งแชร์ต่อข่าวลือฯ ดังกล่าวด้วยการเขียนข้อความเตือนให้หยุดส่งต่อข่าวลือฯ พร้อมส่งไปใน Social Media ส่วนตัวอีกด้วย ดังนั้น จึงขอเตือนว่าอย่าได้หลงเชื่อข่าวลือฯ
ดังกล่าวและหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0 2640 7777 หรือสืบค้นข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของ คปภ. www.oic.or.th หรือสายด่วน คปภ. 1186 และควรหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ หรือ ส่งต่อข่าวลือ Blacklist บริษัทประกันภัยนั้นโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งมีโทษตามกฎหมาย คุณสุขเทพกล่าวในช่วงท้ายของการแถลงข่าวฯ
ทั้งนี้ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีอายุครบ 75 ปีแห่งการก่อตั้งมาด้วยความมั่นคง และในปี 2565 นี้ได้ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับตรงไว้ที่ 4,402 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันรถยนต์ 89% ประกันพ.ร.บ.7% ประกัน Non-motor 5% พร้อมกันตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี (ปี 2570) จะต้องมีเบี้ยประกัน 12,000 ล้านบาท เฉลี่ยมีอัตราการเติบโตปีละ 12-15% เพื่อที่จะมีการฉลองการครบรอบ 80 ปีที่ยิ่งใหญ่
โดยปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับตรงที่ 4,089 ล้านบาท จำแนกเป็นเบี้ยฯ จากประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จำนวน 3,672 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 89.8% จากประกันภัย พ.ร.บ. จำนวน 281 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6.9% และจากประกันภัย Non-Motor จำนวน 136 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.3%
ด้านอัตราการเติบโตของปี 2564 เบี้ยประกันภัยเติบโต 6.3% เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งการเติบโตหลักมาจากการรับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ รวม 6.5% ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดของปี 2564 รวมทุกประเภทภัยอยู่ในอันดับ 22 คิดเป็นสัดส่วน 1.54% โดยจำแนกเป็นประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจอยู่ในอันดับ 12 คิดเป็นสัดส่วน 2.81% และประกันภัย Non-Motor อยู่ในอันดับ 41 คิดเป็นสัดส่วน 0.12%
สำหรับเป้าหมายในปี 2565 นี้ บริษัทฯ จะยังคงยึดมั่นในแนวทางและนโยบายที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง และคิดค้นผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ออกสู่ตลาดให้มากยิ่งขึ้น พร้อมมุ่งเน้นการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ตัวแทนอย่างเข้มข้นและให้ความสำคัญกับตัวแทนทุกระดับจะต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพและศักยภาพอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาการบริการของบริษัทฯ ให้เกิดเป็นความประทับใจแก่ลูกค้าตลอดเวลาให้สมกับ Slogan ของบริษัทฯ ที่ว่า “มิตรแท้ประกันภัย จริงใจเปิดเผย” เราจะเป็นมิตรแท้ของสังคมไทยที่อยู่เคียงข้างประชาชนพร้อมเป็นบริษัทประกันภัยอันดับ 1 ในใจลูกค้าตลอดไป
ด้านผลิตภัณฑ์ประกันภัยนั้น มิตรแท้ประกันภัยได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้มีความหลากหลายรูปแบบมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่า เพื่อให้ลูกค้าและประชาชนสามารถเลือกแบบประกันภัยที่ตรงใจมากที่สุด อีกทั้งยังออกกรมธรรม์ด้วยเบี้ยประกันภัยที่ไม่แพงสำหรับกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่ขับรถดี อาทิ กรมธรรม์ประกันภัย ป1 ในตระกูล “มิตรแท้หนึ่งเดียว” Eco Car เบี้ยฯ เพียง 9,200 บาท
รถกระบะ เบี้ยฯ เพียง 10,500 บาท รถ SUV MPV เบี้ยฯ เพียง 11,500 บาท และรถเบนซ์ เบี้ยฯ เพียง 26,900 บาท เท่านั้น ด้วยวลีเด็ดที่ว่า “ถ้าคุณเป็นคนขับรถดี แล้วจะจ่ายเบี้ยฯ ป1 แบบแพงๆ ไปทำไม” นอกจากนั้น ยังมีแบบประกันภัยอีกมากมายที่รวบรวมอยู่ Mini Catalog “มิตรแท้สะดวกซื้อ” ทั้ง Motor และ Non-Motor ที่พร้อมให้เลือกซื้อได้ทันทีแบบเบี้ยฯ สำเร็จรูป ซึ่งจะสะดวกสำหรับผู้สนใจและบริการได้รวดเร็วสำหรับตัวแทนอีกด้วย
ด้านตัวแทนประกันวินาศภัยซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญอันดับหนึ่งของมิตรแท้ประกันภัย ล่าสุดบริษัทฯ มีตัวแทนประมาณ 12,000 คน ที่มีใบอนุญาตครบถ้วน รวมถึงมีการจัดอบรมสัมมนาเพื่อพัฒนาบริการและเสริมความรู้ให้แก่ตัวแทนทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีอุปสรรคจากสถานการณ์วิกฤต COVID-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราก็ได้อาศัยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยในปัจจุบันเข้ามาช่วยโดยปรับเปลี่ยนการจัดอบรมหลักสูตรต่างๆ เป็นแบบ Online เข้ามาทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มิตรแท้ประกันภัย ยังเชื่อมั่นว่าการบริการผ่านตัวแทนจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและอุ่นใจให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ด้วยเราตระหนักดีว่าการซื้อประกันภัยผ่าน Social Media ในสมัยนี้ซื้อง่ายขึ้นก็จริงอยู่ โดยที่ผ่านมาเราได้มีการทดลองทำการตลาดด้านนี้มาแล้ว แต่เท่าที่ทำการสำรวจข้อมูลต่างๆ กลับพบปัญหาตามมามากมาย เพราะหลายครั้งที่ลูกค้าอ่านข้อมูลประกันภัยในเว็บไซต์และสั่งซื้อกรมธรรม์ทาง Online ด้วยตนเองนั้น ทำให้มีข้อมูลเงื่อนไขบางส่วนที่อ่านตกหล่น หรือ อ่านข้อยกเว้นและความคุ้มครองต่างๆ ไม่ครบถ้วน ทำให้มีปัญหาในการเคลมประกันภัย หรือ ฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
การจะตัดสินใจซื้อประกันภัยราคาถูกๆ ตามที่พบเห็นใน Social Media มากมายหลายช่องทางนั้น ลูกค้าต้องไม่ได้ดูแค่เบี้ยประกันภัยที่ถูกเพียงเรื่องเดียว แต่จะต้องดูที่ความคุ้มครองต่างๆ ดูที่ทุนประกันภัย ดูที่ความรับผิดที่จะเกิดขึ้นประกอบกันด้วย เพราะการที่กรมธรรม์ประกันภัยจะขายด้วยเบี้ยฯ ถูกลงเท่าไรนั้นก็สามารถจัดออกมาสู่ตลาดได้ แต่เป็นที่แน่นอนว่าความคุ้มครองต่างๆ ก็จะต้องลดลงไปด้วยเช่นกัน
ดังนั้น การซื้อประกันภัยผ่านตัวแทนประกันวินาศภัยที่ดีและมีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพตัวแทนฯ จึงเกิดประโยชน์แก่ลูกค้าได้มากกว่า เพราะนอกจากตัวแทนจะสามารถแนะนำกรมธรรม์ที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าได้แล้ว ลูกค้ายังจะได้รับข้อมูลและคำปรึกษาต่างๆ ได้อย่างถูกต้องครบถ้วนมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ตัวแทนมิตรแท้ประกันภัยทุกคนก็พร้อมให้บริการอยู่ทั่วประเทศไทยกว่า 12,000 คน และสำนักงานตัวแทนที่สามารถออกกรมธรรม์ได้ทันทีอีกกว่า 700 แห่งทั่วทุกภูมิภาค
ด้านสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมานั้น บริษัทฯ ไม่ได้รับประกันภัยโควิด เนื่องจากเห็นว่ามีความเสี่ยงที่สูง แต่ขณะนี้ก็มีลูกค้าจากบริษัท เดอะวัน ประกันภัย และเอเชียประกันภัย ที่ถูกสั่งปิดกิจการ มาทำประกันภัยกับบริษัทฯ ในส่วนที่ความคุ้มครองเดิมยังไม่ครบอายุ คิดเป็นเบี้ยรับประมาณ 33 ล้านบาท และคาดว่าปี 2565 จะมีผู้ทำประกันภัยเพิ่มขึ้นประมาณ 50 ล้านบาท
ถึงแม้จะอยู่ในท่ามกลางวิกฤตของ COVID-19 ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของผู้บริหารและพนักงานสำนักงานใหญ่ก็จะต้องมีการปรับตัวปรับวิธีการทำงานกันอย่างเข้มข้นเช่นเดียวกันโดยส่วนใหญ่จะต้องทำงานจากบ้าน (Work From Home) เข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ซึ่งทางบริษัทฯ ก็ได้อำนวยความสะดวกด้วยการให้ทุกคนสามารถที่จะขนย้ายอุปกรณ์การทำงานรวมถึงคอมพิวเตอร์กลับไปทำงานประจำอยู่ที่บ้านเพื่อให้การติดต่อสื่อสารระหว่างกันเกิดอุปสรรคน้อยที่สุด
ส่วนพนักงานที่จะต้องมาทำงานที่สำนักงานใหญ่นั้น ทางบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญสูงมากด้านสุขภาพและความปลอดภัยต่อสุขภาพจึงได้จัดเตรียมสถานที่ให้พักค้างภายในอาคารเพื่อลดการเดินทาง ซึ่งมีความเสี่ยงต้องพบเจอบุคคลมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการคือ
1. เพื่อให้การบริการลูกค้าดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อยและราบรื่นมากที่สุด และ 2. เพื่อสนับสนุนการทำงานของตัวแทนทั่วประเทศให้สามารถดำเนินการขายได้อย่างต่อเนื่องและได้รับผลกระทบน้อยที่สุด สำหรับทางด้านตัวแทนมิตรแท้ประกันภัยทุกคนก็ได้พยายามปรับวิธีการนำเสนอขาย วิธีการติดต่อพบปะกับลูกค้าให้สามารถดำเนินต่อไปให้ได้อย่างต่อเนื่องและจะต้องมีความปลอดภัยจากการเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ด้วย ซึ่งตัวแทนทุกคนก็สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถปรับตัวอยู่ได้กับสถานการณ์ COVID-19 มาได้โดยตลอดอย่างน่าชื่นชม