18 กุมภาพันธ์ 2565 : นายวีร์ สิรสุนทร ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโมเวิร์ล จำกัด (PRIMO) กล่าวว่า PRIMO สตารท์อัพที่มีผู้เชี่ยวชาญด้าน Omnichannel Marketing-Platform สำหรับองค์กรและธุรกิจขนนาดใหญ่ ล่าสุด ระดมเงินลงทุนรอบ Pre-Series A จาก Fuchsia VC และ Beacon VC เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีในทุกผลิตภัณฑ์ทั้งระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM: Customer Relationship Management), แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า (CDP: Customer Data Platform) และระบบเพื่อการบริหารความสัมพันธ์คู่ค้า (Partnership Management) รวมถึงขยายธุรกิจรองรับการเติบโต

“Omnichannel Marketing Platform เติบโตอย่างชัดเจนในยุคโควิด-19 ธุรกิจขนาดใหญ่เห็นความสำคัญของเครื่องมือเพื่อใช้ทำการตลาดในรูปแบบ Omnichannel มากขึ้นและยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก ด้วยองค์กรขนาดใหญ่ต่างมองหาแพลตฟอร์มที่จะนำมาใช้ในการรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากทุกช่องทางเพื่อนำมาประมวลผลและสร้างประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้ากลุ่มต่างๆ (Segment-based Engagement) อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Experience)” คุณวีร์กล่าวต่อว่า

“ทุกวันนี้ PRIMO Omnichannel Marketing Platform มีความสามารถมากขึ้น มีความยืดหยุ่นสูง และติดตั้งได้โดยใช้เวลาอันสั้น ทำให้นักการตลาดมีเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว เพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคที่เป็น Data Driven นอกจากนี้ PRIMO Omnichannel Marketing Platform มีประสิทธิภาพที่สามารถ Engage หรือชวนลูกค้ามามีส่วนร่วมให้ตรงตามจุดประสงค์ของนักการตลาดและตรงตามกลุ่มเป้าหมายได้”

PRIMO Omnichannel Marketing Platform วางแผนการใช้เงินลงทุนที่ได้รับจาก Fuchsia VC และ Beacon VC ในรอบ Pre-Series A นี้ใน 3 ด้านด้วยกัน คือ

1) พัฒนาความสามารถของ Omnichannel Marketing Platform ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการเพิ่มความสามารถของ AI ที่อยู่ในระบบ และการเพิ่ม Engagement Mode ต่างๆ ให้มีวิธีการที่จะชวนลูกค้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลายยิ่งขึ้นกว่าเดิม

2) ขยายธุรกิจและจำนวนทีมงานทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภูเก็ตในทุกมิติ เพื่อสนับสนุนลูกค้าให้ได้มากกว่าเดิม ทั้งทีมพัฒนาธุรกิจ ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีม Software Developer รวมถึงทีม Engineer และทีม Customer Support

3) ลงทุนและทดลองในผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจใหม่ เพื่อให้ PRIMO Omnichannel Marketing Platform มีความพร้อมในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลลูกค้า (Customer Data) ในองค์กรต่างๆ และเป็นสิ่งที่ทุกๆ บริษัทในประเทศไทยต้องมี พร้อมทั้งสนับสนุนให้ทุกองค์กรให้ความสำคัญกับการเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า และนำข้อมูลลูกค้าเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ให้ได้อย่างเป็นระบบเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า

นางสาวนาเดีย สุทธิกุลพานิช Head of Fuchsia Venture Capital (Fuchsia VC) กล่าวถึงการลงทุนครั้งนี้ว่า “เรามองว่ายุคดิจิทัลในปัจจุบันและอนาคต ธุรกิจจะถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data) ธุรกิจที่สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์และเปลี่ยนเป็นความเข้าใจในตัวลูกค้าได้ จะมีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่สูงกว่าคู่แข่ง ซึ่ง PRIMO มีเครื่องมือในการ ช่วยธุรกิจไทยให้สามารถปรับตัวในยุคดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น”

นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) กล่าวว่า เราเชื่อว่า PRIMO จะช่วยยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการวิเคราะห์และนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และจากความร่วมมือครั้งนี้ ธนาคารจะสามารถนำเทคโนโลยีจาก PRIMO มาต่อยอดในธุรกิจเพื่อให้เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้นอีกด้วย”

นอกจากนี้ SOSV ซึ่งเป็น 1 ใน VC ระดับ Top 5 ของโลก และ Infinity Technologies VC ที่เป็นผู้ลงทุนใน PRIMO รอบ Pre-Seed ที่ผ่านมายังร่วมลงทุนในรอบนี้อีกด้วย ด้านธุรกิจของ PRIMO มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตเฉลี่ย 2 เท่าทุกปี

ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นจาก 18 คน ในปี พ.ศ.2562 มาสู่ 108 คนในปี พ.ศ. 2564 ให้บริการ Omnichannel Marketing Platform แก่ลูกค้าใน 3 อุตสาหกรรม คือกลุ่มค้าปลีก (Retail) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) และกลุ่มธุรกิจการเงิน (Finance) ไม่ว่าจะเป็นธนาคารหรือประกันประเภทต่างๆ ด้วยจุดแข็งด้านผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับ ระบบมีความยืดหยุ่น และเติบโตไปตามแบบที่ลูกค้าต้องการได้ อีกทั้งยังให้คำปรึกษาลูกค้าอย่างเชี่ยวชาญกล้าเห็นต่าง ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจขององค์กรขนาดใหญ่ได้หลากหลาย

ในอนาคต PRIMO ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยให้บริการแก่ลูกค้าปัจจุบันที่ทำธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ในภูมิภาคนี้โดยใช้ความแข็งแกร่งของเครือข่ายผู้ลงทุน ทั้ง Fuchsia VC และ Beacon VC รวมทั้งการทำการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ (Networking) ต่างๆ ของ PRIMO เองในการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศในอนาคต