17 กุมภาพันธ์ 2565 : มร.โทมัส วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า “ปี 2021 ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายเป็นอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ แต่ อลิอันซ์ อยุธยา ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2020 โดยมีช่องทางตัวแทนเป็นช่องทางที่สร้างยอดขายมากที่สุดถึง 39% ของเบี้ยประกันรับใหม่ (ANP) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านความคุ้มครองสุขภาพ ทำให้ธุรกิจสุขภาพยังเติบโตต่อเนื่องด้วยสัดส่วนของสินค้าถึง 36.4% ของเบี้ยประกันผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่บริษัทขาย
นอกจากนั้น ในด้านของการดำเนินงาน ยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า จนทำให้อลิอันซ์ อยุธยา มีคะแนนอยู่ในระดับ Loyalty Leader ที่ลูกค้ามีความภักดีเป็นอันดับ 1 (จากผลสำรวจของ Ipsos Research Agency บริษัทวิจัยระดับโลก) และสิ่งที่เราถือเป็นความภาคภูมิใจคือการให้ความคุ้มครองคนไทยในสถานการณ์โควิด 19
โดยมีการจ่ายเคลมตามกรมธรรม์จากสถานการณ์โควิด 19 ตั้งปี 2563 จนถึงปัจจุบันไปแล้วกว่า 20,850 เคส เป็นเงินรวมกว่า 1,064 ล้านบาท โดยประมาณ 19,200 เคส เป็นค่ารักษาพยาบาลการเจ็บป่วยจากโควิด 19 และประมาณ 1,330 เคส เป็นการชดเชยจากการแพ้วัคซีน และ ประมาณ 330 เคส มาจากการเสียชีวิต”
สำหรับในปี 2565 เชื่อว่าจะเป็นปีที่ดี มีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีความผันผวนในตลาดทุน และความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ย อลิอันซ์ อยุธยา ยังคงต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง มุ่งเน้นในเรื่องการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน
มร.โทมัส กล่าวไปถึงเป้าหมายดำเนินงานในปี 2565 เชื่อว่าเป็นปีที่ดี สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายมากขึ้น แต่ยังมีความผันผวนในตลาดทุน และความไม่แน่นอนของอ้ตราดอกเบี้ย ถึงกระนั้น อลิอันซ์ อยุธยา ก็พร้อมพิชิตยอดเบี้ยประกันรับรวม 3.47 หมื่นล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 6.5 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 5% โดยมีกลยุทธ์ในการขยายงานยังยึดหลัก 4 เสาหลักเช่นเดิม แต่เสริมรายละเอียดลงไปในแต่ละช่องทาง ได้แก่
1. Growth : สร้างการเติบโตในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย โดยสำหรับช่องทางตัวแทน ผ่านโครงการใหม่ๆ เช่น Elite Program มุ่งเน้นการนำโมเดลของตัวแทนที่ประสบความสำเร็จไปใช้พัฒนาตัวแทนกลุ่มอื่น และ Friend of Agency (FOA) เพื่อสร้างโอกาสให้ตัวแทนได้รับการแนะนำผู้มุ่งหวัง ซึ่งการให้ความสำคัญตัวแทนที่เข้าอบรม Elite Program เนื่องจาก ตัวแทนกลุ่มนี้สามารถผลิตผลมากกว่า 40% ในขณะที่เปรียบเทียบกับโครงการทั่วไปที่มีประมาณ 7% เท่านั้น ซึ่งผู้ที่มีผลงานที่ดีย่อมได้รับรางวัล เพื่อเป็นแรงบันดาลในที่จะสร้างทีมไปต่อและเป็นตัวอย่างให้คนอื่นๆ ก้าวขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับช่องทางธนาคาร ในปีนี้หากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย จะมีการขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์คุ้มครองสุขภาพมากขึ้น และการขยายช่องทางอื่นๆ อาทิ ประกันกลุ่มผ่านองค์กร และพันธมิตรต่างๆ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตปีนี้เพิ่มอีก 5-10% จากปี 2564 มีอัตราการเติบโต 28% โดยมีสินค้าให้บริการประมาณ 4-6 แบบ คาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 10 แบบ
2. Product : การพัฒนาผลิตภัณฑ์ มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆต่อเนื่องตลอดปี โดยไม่เพียงรักษาตำแหน่งผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุ้มครองสุขภาพ แต่ยังเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านออมทรัพย์และประกันควบการลงทุนที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งปีนี้จะมีสินค้าที่เรียกว่า Unit Deductible Riders เป็นแบบประกันที่สามารถซื้อประกันชีวิตสุขภาพพร้อมๆ กับการลงทุนควบคู่กันไป และขณะนี้กำลังให้ทางสำนักงานคปภ.พิจารณาอยู่คือ สินค้าที่มีการการันตีผลตอบแทนส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งลูกค้าสามารถนำไปลงทุน เพื่อเป็นช่องทางที่ได้ผลตอบแทนมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน อลิอันซ์ อยุธยา มีฐานลูกค้าประมาณ 1.6 ล้านกรมธรรม์ จึงมีการรวบรวมสถิติเพื่อนำมาพิจารณาแบบประกันให้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
3. Operating Profit : การสร้างผลกำไรจากการดำเนินงาน ผ่านแคมเปญส่งเสริมการขายและการทำอัพเซลและครอสเซลในกลุ่มลูกค้าเดิม การนำเสนอบริการเสริมต่างๆ ให้แก่ลูกค้า เช่น การกู้เงินจากกรมธรรม์ เป็นต้น และการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีในการทำงาน รวมถึงการเคลมออนไลน์ เพื่อให้มีประสิทธิภาพและสร้างประสิทธิผลที่มากขึ้น
4. Franchise : การสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานและลูกค้า โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะ และทัศนคติที่พร้อมต่อการเติบโต โดยเน้นไปที่การพัฒนา Soft Skill ให้กับพนักงาน โดยอลิอันซ์ อยุธยา โดดเด่นในเรื่องนี้มาก ได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 3 จากบริษัทในเครืออลิอันซ์ทั่วโลก ในเรื่องความผูกพันของพนักงานที่มีต่อบริษัท อีกทั้งในมุมของลูกค้า บริษัทให้ความสำคัญกับการให้บริการที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน และพร้อมรับฟังความเห็นและความต้องการของลูกค้าเสมอ
"ถึงแม้อยู่ในสถานการณ์โควิด ต้องทำงานจากที่บ้านไม่ได้พบเจอกัน แต่บริษัทฯ ยังได้อันดับสูงนั่นหมายถึงพนักงานในองค์กรยังรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรใกล้ชิดกับการทำงานร่วมกัน รู้สึกมีความสุขในการทำงาน มีการทำกิจกรรมร่วมกันตลอดในช่วงโควิด จึงภาคภูมิใจว่าอลิอันซ์ ดีต่อผู้ถือหุ้น ดีต่อลูกค้าและดีต่อพนักงาน สรุปว่าปี 2564 เป็นปีที่ดีมากสำหรับผู้ถือหุ้นเพราะทำกำไรได้ดี เป็นปีที่ดีมากสำหรับลูกค้าเพราะว่าจ่ายสินไหมทดแทนไปกว่า 1,000 ล้านบาท และเป็นปีที่พนักงานให้คะแนนองค์กรได้ดีท็อป 5 ในเครืออลิอันซ์ทั่วโลก" มร.โทมัส วิลสัน กล่าวในที่สุด