4 กุมภาพันธ์ 2565 : นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA เปิดเผยว่า ในปี 2564 แม้ธุรกิจประกันชีวิตโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง จากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) แต่โดยภาพรวมช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 เบี้ยประกันชีวิตรับรวมทั้งระบบอยู่ที่ 545,039 ล้านบาท เติบโต 2.56% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (ที่มา : สมาคมประกันชีวิตไทย) โดยเป็นการเติบโตของกรมธรรม์ประกันสุขภาพ (Health Insurance) และประกันชีวิตควบการลงทุน(Unit-Linked) แบบชำระเบี้ยครั้งเดียว(Single premium) สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถเติบโตได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวม
โดยในปี 2565 ทิศทางความต้องการของการประกันสุขภาพจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเกิดจากแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง การรับรู้ข้อมูลการเจ็บป่วยและความยุ่งยากในการเข้ารับการรักษากรณีติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) จากสวัสดิการพื้นฐาน และความกังวลเกี่ยวกับโรคร้ายแรงต่างๆ ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจไทยที่เป็นบวก ขณะที่แนวโน้มเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร(Yield Curve) ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์และประกันชีวิตควบการลงทุนอีกด้วย และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) จะช่วยสนับสนุนให้คนไทยมีความจำเป็นในการวางแผนการเงินเพื่อเกษียณมากขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันบริษัทจึงได้กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2565-2567) เพื่อการเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน (a journey towards sustainable future) โดยมุ่งเน้น 5 มิติหลักขับเคลื่อนสู่องค์กรแห่งความยั่งยืนซึ่งประกอบด้วย
1.Health บริการด้านสุขภาพที่เป็นเลิศ (Excellent Health Services) โดยมุ่งพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคน ซึ่งปัจจุบันมีแผนความคุ้มครองสุขภาพ ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย เช่น Prestige Health แผนความคุ้มครองทุนประกันสูงพิเศษ และความคุ้มครองด้านสุขภาพยามเดินทางต่างประเทศ และ Happy Health แผนความคุ้มครองด้านสุขภาพที่ครอบคลุมห้องพักเดี่ยวมาตรฐานทุกโรงพยาบาล และมอบความคุ้มครองสูงสุด 5 ล้านบาทต่อการรักษา และมีแผนสินค้าใหม่ที่ได้วางขายคือ Value Health แผนความคุ้มครองด้านสุขภาพ เพื่อความคุ้มครองที่เพิ่มจากที่มีอยู่ กับสินค้า Value Health แผนความคุ้มครองด้านสุขภาพเด็ก
นอกจากนี้ มีการพัฒนาระบบนิเวศด้านสุขภาพ(Health Ecosystem) ด้วย BLA Health Services ที่มอบความอุ่นใจด้วยบริการสุขภาพครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น BLA Health Partner, BLA Every Care และ E-Services โดยที่ผ่านมาโครงการ Care@Home ที่กรุงเทพประกันชีวิตมอบให้แก่ลูกค้าในสถานการณ์โควิด-19 สำหรับผู้ประสบปัญหา Home isolation จากโควิด-19 เฟสที่ 1 เริ่มในเดือน ส.ค.2564 และโครงการ Care@Home เฟสที่ 2 เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 เป็นต้นไป และจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักของกรุงเทพประกันชีวิตในการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร จากผลสำรวจความพึงพอใจลูกค้า(Net Promoter Score: NPS) ในปี 2564 อยู่ที่ 44% ปรับตัวเพิ่่มขึ้น 4% จากปี 2563
2.Wealth ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม เช่น 1.ประกันชีวิตชนิดมีเงินปันผล(participating policy) จุดเด่นคือ วางแผนชีวิต วางแผนการลงทุน ผลตอบแทนที่มากกว่า เงินต้นไม่สูยหาย วางแผนการศึกษาบุตร และวางแผนลดหย่อนภาษี 2.ประกันชีวิตควบการลงทุน วางแผนเพื่อเป้าหมายต่างๆ ครบจบในกรมธรรม์เดียว สามารถปรับลดสัดส่วนความคุ้มครองและการลงทุนได้อย่างยืดหยุ่น มีกองทุนรวมระดับคุณภาพที่ได้รับการคัดสรรจากนักวิเคราะห์การลงทุนของกรุงเทพประกันชีวิตสำหรับจัดพอร์ตลงทุน และมีที่ปรึกษาทางการเงินและระบบทำงานเพื่อการวางแผนการเงินที่ตอบเป้าหมายชัดเจน
3.Digital Insurance ทุกกระบวนการรับประกัน ในรูปแบบดิจิทัล ภายใน 5 ปี ตั้งแต่กระบวนการขาย การออกกรมธรรม์ การบริการกรมธรรม์ และการต่ออายุกรมธรรม์ รวมไปถึงส่งเสริมการใช้งานดิจิทัลสำหรับผู้ถือกรมธรรม์ โดยมีแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้า BLA Happy Life App และ Bangkok Life GMC App
4.Channel การเพิ่มช่องทางการขาย มีคุณภาพและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและโอกาสทางการตลาด โดยพัฒนาคุณภาพช่องทางตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน สู่การเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ผ่านโครงการ Smart Agent, Smart FA และ Smart Leader โดยมีโครงสร้างแผนรายได้และเครื่องมือสนับสนุนการทำงาน เพื่อให้ทีมขายมุ่งสู่เส้นทางการเติบโตยั่งยืน
ขณะเดียวกันสร้างความแข็งแกร่งในช่องทางธนาคารและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายมุ่งสู่ผู้นำช่องทางขายประกันออนไลน์ แบบประกันหลากหลายประเภท อาทิ การออมทรัพย์, การเกษียณ และสุขภาพ โดยข้อมูลปี 2564 กรุงเทพประกันชีวิตมีสัดส่วนเบี้ยประกันรับรายใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ เพิ่มขึ้นอย่างมาก
5.Social Responsibility ขยายบทบาทและหน้าที่ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางการเงินเพื่อวางแผนชีวิตให้มั่นคง ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการสังคม จิตสำนึกการดูแลสิ่งแวดล้อมแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย บริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน
นางสาวจารุวรรณ ลิ้มคุณธรรมโม ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำลังจะครบรอบ 70 ปี จึงมีการจัดแคมเปญพิเศษภายใต้ชื่อ "ร่วมลด ได้ลุ้น" ก้าวสู่สังคมไร้เงินสดอย่างมั่นใจ โดยลดการใช้ทรัพยากร ผู้ร่วมรายการเป็นบุคคลทั่วไปที่ทำการสมัครทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ที่บริษัทกำหนด ได้แก่ แอปพลิเคชัน BLA Happy Life ระบบบริการออนไลน์ (Smart Customer) และ Line Official @BangkokLifeAssurance พร้อมสิทธิ์ลุ้นรางวัลมากมาย 771 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 3.8 ล้านบาท ซึ่งรางวัลใหญ่เป็นรถยนต์ Toyota Corolla Cross เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2565 กำหนดจับรางวัลวันที่ 25 สิงหาคม 2565
ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นของแคมเปญดังกล่าว หากย้อนไปในปี 2564 บริษัทฯ มีการทำธุรกรรมผ่านเงินสดประมาณ 12% และมีการชำระเงินผ่านรูปแบบอื่นๆ 88% และเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมาขยับเพิ่มขึ้นเป็น 93% ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีความตั้งใจที่จะเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่จะประกาศนโยบายว่า "จะไม่รับชำระเงินสดตั้งแต่เมษายน 2565 เป็นต้นไป" ซึ่งบริษัทฯ เริ่มดำเนินการลดรับเงินสดมาเป็นระยะ โดยระยะแรกเริ่มจำกัดการรับเงินสดที่ 5,000 บาท ต่อมาที่ 2,000 บาท จนกระทั่งไม่รับเงินสด โดยเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบต่อลูกค้าและตัวแทนในเบื้องต้น แต่ด้วยมีการทดลองทำระบบให้สะดวก ง่าย ปลอดภัย และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดการใช้กระดาษ เมื่อประโยชน์มากกว่าบริษัทฯ จึงมั่นใจในการนำมาปรับใช้ทันที
สำหรับทางด้านช่องทางขยายงานผ่านตัวแทนล่าสุดบริษัทฯ มีตัวแทนที่มีใบอนุญาตทั่วประเทศ 12,000 คน แอ็คทีฟ 23% มีที่ปรึกษาทางการเงิน 1,400 คน ตัวแทนที่มีเพิ่มขึ้นปีที่ผ่านมามีจำนวน 3,000 คน ผ่านโครงการ สมาร์ท รีดเดอร์, สมาร์ท เอฟเอ และสมาร์ท เอเจนท์ ประมาณ 25-30% ซึ่งในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ตัวแทนกลุ่มนี้สามารถผลิตเบี้ยยูนิตลิงค์เข้ามากว่า 40 ล้านบาท ถือว่าเปิดตัวได้ดี