31 ตุลาคม 2559 : นายพรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ด้วยมีประชาชนจำนวนมากจากจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ โทรศัพท์เข้ามายังสายด่วน 1359 ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เพื่อสอบถาม เกี่ยวกับโครงการเงินให้กู้ยืมดอกเบี้ยต่ำของกลุ่มหรือชมรม ต่างๆ ว่าเป็นโครงการในความสนับสนุนของกระทรวงการคลังหรือไม่
ซึ่งโครงการต่าง ๆ ดังกล่าว ไม่ได้เป็นโครงการตามนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สิน หรือนโยบายการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการคลังหรือของรัฐบาลแต่อย่างใด จึงขอแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เมื่อมีผู้ชักชวนให้กู้ยืมเงินในโครงการใด ๆ ที่มีเงื่อนไขการกู้ยืมและพฤติการณ์ เช่น แอบอ้างว่ามีแหล่งเงินทุนที่ให้ประชาชนกู้ยืมในวงเงินสูง กำหนดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมในอัตราต่ำ (เช่น ร้อยละ 1 ต่อปี เป็นต้น) ระยะเวลาชำระคืนนาน 10 ปี สามารถขอกู้ยืมได้โดยใช้หลักฐานเพียงบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้าน มีการเรียกเก็บค่าสมัครสมาชิก ค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง เงินประกัน เงินสวัสดิการ ค่าแปลเอกสาร หรือค่าใช้จ่ายอื่น ซึ่งอาจเรียกเก็บทันทีหรือแจ้งว่าจะหักจากเงินสุทธิที่จะจ่ายให้ แก่ผู้กู้ยืม เป็นต้น
โดยขอให้ประชาชนศึกษาเงื่อนไขในเอกสารสำคัญต่าง ๆ อย่างรอบคอบ อย่าลงนามในเอกสารสัญญาเงินกู้ สัญญาค้ำประกันเงินกู้ สัญญาขายฝาก หรือหนังสือยอมรับสภาพหนี้ใด ๆ ที่ไม่ได้ระบุเงื่อนไขการกู้ยืมเงินให้ครบถ้วนเสียก่อน รวมทั้งอย่าลงนามในเอกสารรับเงินใด ๆ โดยที่ยังไม่ได้รับเงินจริงตามจำนวนที่ปรากฏ ในสัญญา เนื่องจากประชาชนอาจถูกหลอกลวงทำให้ตกเป็นลูกหนี้ผู้มีภาระหนี้หนักและถูกฟ้องร้องให้ชำระหนี้ตามกฎหมายได้ในภายหลัง
ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยว่าโครงการเงินให้กู้ยืมดอกเบี้ยต่ำโครงการใดเป็นโครงการเงินให้กู้ยืมดอกเบี้ยต่ำของรัฐบาล หรือต้องการขอคำแนะนำวิธีการทำสัญญาเงินกู้ให้เกิดความรอบคอบ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลมายังศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สศค. ทางโทรศัพท์สายด่วน 1359 หรือส่งเอกสารมายังตู้ ปณ. 1359 ปณจ. บางรัก กรุงเทพฯ 10500