ประเทศไทย, 26 มกราคม พ.ศ. 2565 : เทคโนโลยีและโซลูชั่นด้าน“เอดจ์ คอมพิวติ้ง (Edge Computing) จะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเป้าหมายของอุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทย เพราะสถานการณ์แบบเรียลไทม์และข้อมูลที่เกิดขี้นจากอุปกรณ์ทางกายภาพหรือเซ็นเซอร์ในโลกแห่งความเป็นจริงสามารถประมวลผลและวิเคราะห์ได้เกือบเรียลไทม์ โดยใช้การประมวลผลแบบโลคัลไลซ์และใช้ทรัพยากรในการประมวลผลที่ใช้พลังงานต่ำบนขอบของเครือข่าย(Edge of the Network)” ทั้งนี้ จากความสามารถในการประมวลผลระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมของสเตรตัส เทคโนโลยีส์ กำลังปฏิวัติวิธีใช้ประโยชน์จากไอโอที การวิเคราะห์ และเอไอเพื่อให้เกิดการตัดสินใจที่ดีและรวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มยานยนต์ สุขภาพ และหุ่นยนต์
นายลิน โฮ ฟุง กรรมการผู้จัดการ บรษัท สเตรตัส เทคโนโลยีส์ ประจำภูมิภาค เอเชียใต้ กล่าวว่า "จากการวิจัยของการ์ทเนอร์คาดว่าประเทศไทยจะมีการใช้จ่ายในด้านคลาวด์เติบโตมากถึง 28.2% ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากองค์กรธุรกิจนำเอดจ์ คอมพิวติ้งและเวอร์ชวลไลเซชั่นมาใช้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ส่งสัญญาณถึงการสนับสนุนบริษัทต่างๆ ที่เริ่มดำเนินการในการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว สเตรตัส พร้อมที่จะช่วยให้บริษัทไทยได้เปรียบในการแข่งขัน อยู่ในระดับแนวหน้าของเทคโนโลยีและให้บริการลูกค้าที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมของตน"
สเตรตัส เทคโนโลยีส์ ช่วยให้บริษัทต่างๆ ได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมของตนด้วยบริการที่หลากหลายที่ขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจ โดยให้การเข้าถึงข้อมูลจากแหล่งที่มาและแอปพลิเคชันจำนวนมากในแบบเรียลไทม์และตามความต้องการ จากการที่เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล พวกเขาต้องมองข้ามศูนย์ข้อมูลและไปที่คลาวด์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสำคัญ เนื่องจากข้อมูลต้องเดินทางผ่านเครือข่ายต่างๆ ทั่วประเทศ
"เอดจ์ คอมพิวติ้ง ได้จัดการกับข้อจำกัดของโมเดลคลาวด์ คอมพิวติ้งโดยแจกจ่ายทรัพยากรไปยังอุปกรณ์ระยะไกลที่ใช้กระบวนการและแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ วิธีนี้ช่วยหลีกเลี่ยงความท้าทายด้านความห่างไกลและศูนย์ข้อมูลแบบรวมศูนย์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง" นายซาเวียร์ โก๊ะ ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำอาเซียน ตอนเหนือ บริษัท สเตรตัส เทคโนโลยีส์ กล่าวและว่า "แพลตฟอร์มซีโร-ทัช ซีทีซี เอดจ์ คอมพิวติ้ง (Zero-touch ztC Edge Computing) ของ สเตรตัส ได้รับการออกแบบให้ติดตั้ง ปรับใช้ และจัดการได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้ทักษะพิเศษ
นอกจากนี้ ระบบของเราสามารถบรรเทาภัยคุกคามทาง ไซเบอร์และซ่อมแซมตัวเองได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอาศัยมนุษย์ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะเหล่านี้ สเตรตัส ทำให้อุตสาหกรรม 4.0 เป็นเรื่องที่ราคาจับต้องได้และทางเทคนิคก็ทำได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงสถานที่ตั้งทางกายภาพ และหากมีการติดตั้งระบบนี้จำนวนมากพอสามารถทำให้เศรษฐกิจของไทยสามารถบรรลุไทยแลนด์ 4.0 อย่างแน่นอน"
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งไม่ใช่แค่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่และครอบคลุมมากขึ้นเท่านั้น โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นได้เช่นกัน ด้วยแพลตฟอร์ม ztC Edge Computing Stratus ได้จัดเตรียมวิธีการสำหรับองค์กรในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้วโดยการใช้โซลูชั่นเอดจ์ คอมพิวติ้ง เพื่อสร้างรากฐาน(Foundation)ใหม่สำหรับไอทีสมัยใหม่ในประเทศไทย วิธีนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเป็นโซลูชันที่ช่วยประหยัดต้นทุนซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านไอที
แพลตฟอร์ม ztC Edge Computing ช่วยให้ธุรกิจของไทยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้แพลตฟอร์มราคาไม่แพง เรียบง่าย ปลอดภัย เป็นระบบอัตโนมัติ และปรับขนาดได้ บริษัทต่างๆ สามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็วว่าลูกค้าและผู้บริโภคโต้ตอบกับผลิตภัณฑ์ของตนอย่างไร ทันต่อความเคลื่อนไหวของตลาด และเข้าใจตลาดได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้ธุรกิจล้ำหน้ากว่าใคร
ประวัติ :
นายลิน โฮ เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการบริการที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก โดยมีประสบการณ์มากมายในด้านการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานระบบไอที การเอาท์ซอร์สเชิงกลยุทธ์ด้านไอที และโซลูชันซอฟต์แวร์สำหรับตลาดเฉพาะทางต่างๆ ซึ่งรวมถึงภาครัฐ โทรคมนาคม สถาบันการเงิน และล่าสุดยังครอบคลุมถึงเทคโนโลยีปฏิบัติการในภาคส่วนของระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมด้วย
นายลิน โฮ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าดูแลงานขาย การพัฒนาธุรกิจ และการดำเนินธุรกิจในหลากหลายพื้นที่ของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นกำลังสำคัญในการริเริ่มธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงผลักดันการฟื้นตัวของธุรกิจที่สำคัญๆ ในหลากหลายบทบาทตลอดเส้นทางสายอาชีพของเขา นอกจากนี้ยังมีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการรับมือกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัฒนธรรมทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในตลาดเกิดใหม่
ทั้งนี้ นายลิน โฮ สำเร็จการศึกษาด้านเอ็มบีเอสำหรับผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม) สาขาการสื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์จากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ประเทศสหราชอาณาจักร โดยสถานที่ทำงานหลักของเขาจะประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
นายซาเวียร์ โก๊ะ
ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาคอาเซียนเหนือ บริษัท สเตรตัส เทคโนโลยีส์
ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาคอาเซียนเหนือ นายซาเวียร์ มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลด้านผลการดำเนินธุรกิจของบริษัท สเตรตัส เทคโนโลยีส์ ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม โดยมีประสบการณ์อย่างมากในฐานะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและการขายโซลูชั่นอุตสาหกรรมร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีความมั่นคงสูงในระดับบลูชิพ เช่น Siemens, Yokogawa และ Emerson
ก่อนที่จะมาร่วมงานกับบริษัท สเตรตัส เทคโนโลยีส์ ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเมื่อปี 2562 ทั้งนี้เขา มีบทบาทสำคัญในการช่วยผลักดันให้ลูกค้ารับรู้ได้ถึงคุณประโยชน์ของแพลตฟอร์มการประมวลผลแบบเอดจ์ (Edge Computing) ของสเตรตัสได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการันตีด้วยรางวัลผู้บริหารงานลูกค้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแห่งปี 2020 (Account Executive) และรางวัล Winner's Circle Award เมื่อปี 2021
นอกจากนี้ เขา ยังเป็นผู้นำในสไตล์ที่เน้นลงมือทำอย่างจริงจังและเป็นผู้ที่หลงใหลในเรื่องเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ สำหรับภาคอุตสาหกรรม (Industrial Internet of Things: IIoT) รวมถึงอุปกรณ์ควบคุมแบบลอจิกที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ (Programmable Logic Controller: PLC) เช่นเดียวกับที่มีความกระตือรือร้นในการจัดการกับความท้าทายทางธุรกิจและการเล่นแบดมินตัน ซึ่งเป็นกีฬาที่เขา ชื่นชอบอย่างมากและเคยเป็นกัปตันทีมแบดมินตันในสมัยเรียนระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางในประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่จะคว้าปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ได้สำเร็จเมื่อปี 2550