20 มกราคม 2565 : นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. จะออกใช้ธนบัตรชนิดราคา 20 บาท ที่เปลี่ยนวัสดุการพิมพ์เป็นพอลิเมอร์ เพื่อพัฒนาคุณภาพให้ประชาชนได้ใช้ธนบัตรที่มีสภาพใหม่ สะอาด และใช้งานได้นานขึ้น เนื่องจากธนบัตรชนิดราคา 20 บาท เป็นธนบัตรที่ประชาชนใช้จ่ายมากที่สุด มีการหมุนเวียนเปลี่ยนมือบ่อย จึงทำให้ธนบัตรมีสภาพเก่ากว่าธนบัตรชนิดราคาอื่น
ธนบัตรพอลิเมอร์ผลิตจากพลาสติกแบบพิเศษซึ่งไม่ดูดซับความชื้นและสิ่งสกปรก และมีความทนทานในการใช้งานมากกว่าธนบัตรกระดาษ นอกจากนี้ ด้วยลักษณะเฉพาะของธนบัตรพอลิเมอร์ดังกล่าว จึงช่วยลดปริมาณการผลิตธนบัตรใหม่เพื่อทดแทนธนบัตรที่ชำรุด และเอื้อต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยสอดคล้องกับธนาคารกลางในหลาย ๆ ประเทศที่ได้ออกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์ เช่น อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม เป็นต้น
ธนบัตรพอลิเมอร์ ชนิดราคา 20 บาท มีภาพและลักษณะโดยรวมเหมือนกับธนบัตรกระดาษชนิดราคา 20 บาท ที่หมุนเวียนในปัจจุบัน โดยมีการใช้เทคโนโลยีต่อต้านการปลอมแปลงที่ทันสมัยและมีมาตรฐานขั้นสูงเช่นเดียวกับธนบัตรกระดาษ ชนิดราคา 20 บาท รวมถึงมีลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงเพิ่มเติมสำหรับธนบัตรพอลิเมอร์ ชนิดราคา 20 บาท คือช่องใสที่สามารถมองเห็นทะลุได้ทั้งสองด้าน
โดยช่องใสด้านล่างที่เป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เมื่อพลิกธนบัตรขึ้นลงจะเห็นเป็นสีเหลือบแดง นอกจากนี้ มีการเพิ่มจุดสังเกตสำหรับผู้บกพร่องทางสายตาในบริเวณช่องใสด้านบนที่เป็นทรงหยดน้ำ โดยมีตัวเลข “20” ขนาดเล็ก ดุนนูน เพื่อให้สัมผัสได้ง่ายขึ้น
ธนบัตรพอลิเมอร์ ชนิดราคา 20 บาท จะเริ่มออกใช้หมุนเวียนในวันที่ 24 มีนาคม 2565 นี้ โดยประชาชนสามารถเบิกถอนผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจทุกแห่ง สำหรับธนบัตรกระดาษ ชนิดราคา 20 บาท ที่ใช้หมุนเวียนอยู่ในปัจจุบัน ยังคงสามารถใช้จ่ายได้ตามปกติต่อไป ซึ่งถือว่ายังมีจำนวนสูงสุดถึง 30% หรือประมาณ 600 ล้านฉบับ คิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนธนบัตรที่พิมพ์ทุกประเภทกว่า 1,800 ล้านฉบับ
สำหรับเป้าหมายการลดการพิมพ์ธนบัตรในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกันการเงินยุคดิจิทัล ซึ่งเรื่องนี้ ธปท.มีการเตรียมองค์กรให้ยืดหยุ่นที่จะมีการปรับเปลี่ยนต่อสถานการณ์ในอนาคต แต่การใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลนั้น ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน
แต่สิ่งที่ธปท.ดำเนินการขณะนี้คือ สำรวจการใช้จ่ายของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ ปรับตัวฉะนั้นธนบัตรกระดาษและดิจิทัลคงต้องควบคู่กันไป ยกตัวอย่าง ระบบการโอนเงินแบบพร้อมเพย์ ขณะนี้ประชาชนสามารถโอนเงินด้วยความสะดวกรวดเร็ว แต่ก็ยังมีประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังต้องการจับจ่ายใช้สอยผ่านธนบัตรในการทำธุรกรรมอยู่ด้วย