14 มกราคม 2565 : นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวว่า “ภาพรวมของตลาดประกันชีวิตในประเทศไทยในปี 2564 มีการเติบโตเล็กน้อย โดยเฉพาะช่องการขายผ่านธนาคาร (Bancassurance) เนื่องจากการประกาศล็อกดาวน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงส่งผลให้ช่องทางการขายลดจำนวนลง แต่สำหรับช่องทางการขายผ่านธนาคารและสถาบันการเงินของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กลับโตสวนกระแส มีตัวเลขการเติบโต 47% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เป็นเพราะกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเวลาดังกล่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกันชีวิตควบการลงทุน และประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น ซึ่งฐานลูกค้าหลักมาจากธนาคารเกียรตินาคินภัทร, ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย, กลุ่มบริษัทศรีสวัสดิ์, กรุงศรี ออโต้ และ โตโยต้า ลีสซิ่ง
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นคงในด้านช่องทางขายแบงก์แอสชัวรันส์ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ได้สานต่อความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรด้านสินเชื่อใหม่ๆ ได้แก่ ไมโครลีสซิ่ง และ ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง รวมไปถึงการลงนามขยายความร่วมมือทางธุรกิจต่อเนื่องอีก 3 ปีกับศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ในการเพิ่มช่องทางการขายและขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมาย และช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านช่องทางการขายได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ได้ตั้งเป้าการเติบโตแบงก์แอสชัวรันส์ปี 2565 ไม่น้อยกว่า 30%”
ทางด้านนางสาวยุวดี งานทวีกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจสถาบันการเงิน บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความสำเร็จในส่วนของช่องทางการขายผ่านธนาคารและสถาบันการเงินในปี 2564 มาจากการปรับตัวที่รวดเร็วของเจนเนอราลี่และพันธมิตรให้ทันต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของลูกค้า โดยดึงเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทั้งการขายผ่าน Digital Face to Face หรือการซื้อประกันผ่านช่องอิเล็กทรอนิกส์
การเพิ่มกองทุนรวมสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าในสภาวะที่ตลาดการลงทุนผันผวนซึ่งเจนเนอราลี่ได้ใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการวิเคราะห์เพื่อจัดสรรกองทุนรวมที่มีคุณภาพและน่าสนใจให้สอดรับกับเทรนด์การลงทุนอยู่เสมอ
ด้านประกันคุ้มครองสินเชื่อเติบโตจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับประเภทสินเชื่อที่หลากหลายจึงทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้เร็วและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมไปถึงบริการด้านการเคลมและการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ลดกระบวนการทำงานโดยดึงเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อส่งมอบบริการและความคุ้มครองให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ได้เตรียมเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพช่องทางการขายผ่านธนาคารและสถาบันทางการเงิน หรือแบงก์แอสชัวรันส์ ให้มีความมั่นคงและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นในปี 2565 โดยมุ่งเน้นการขยายกลุ่มเป้าหมายโดยออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อวิถีชีวิตที่เหมาะสมของกลุ่มลูกค้า อย่างผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตควบการลงทุน หรือยูนิตลิงค์ (Unit Linked) ที่ลูกค้าได้รับประโยชน์ความคุ้มครองและผลตอบแทนจากการลงทุน และกลุ่มผลิตภัณฑ์คุ้มครองสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตสอดคล้องไปกับทิศทางของตลาดสินเชื่อในอนาคต
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพด้านงานบริการให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการเพิ่มเติมฟีเจอร์การให้การบริการที่สะดวกรวดเร็ว เพื่อสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าของเราในแอปพลิเคชัน Generali 365 จึงเชื่อมั่นว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้านี้จะสามารถขยายฐานลูกค้าจากพันธมิตรใหม่เพิ่มขึ้นอีก 50% ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่แข่งขันได้ในตลาดและคำนึงถึงความต้องการและผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ