กรุงเทพฯ, 10 มกราคม 2565 : วีซ่า เผยโฉมใหม่ในประเทศไทย พร้อมเชิญชวนให้ รู้จักกับวีซ่า (Meet Visa) มากขึ้น โดยการปรับโฉมแบรนด์ในระยะแรกจะมุ่งเน้นให้เห็นถึงความสามารถทางเทคโนโลยีที่หลากหลายภายใต้เครือข่ายของวีซ่า และความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะเพิ่มโอกาสทางการค้าสำหรับทุกคนในทุกที่ทั่วโลก ซึ่งในระยะแรกของการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์จะมีการทำแคมเปญการตลาดในหลายประเทศทั่วโลก พร้อมกับการนำเสนอโลโก้ใหม่ที่ดูทันสมัยยิ่งขึ้น
วีซ่า ได้ถือกำเนิดขึ้นมากว่า 60 ปีแล้ว ในช่วงเวลาที่น้อยคนนักจะสามารถจินตนาการถึงโลกที่ปราศจากเงินสดหรือเช็ค วิสัยทัศน์ในการก่อตั้งวีซ่าเพื่อนำเสนอการชำระเงินที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยกว่าเดิม เริ่มมาจากคำถามง่ายๆ ที่ว่า “จะเกิดอะไรขึ้น....ถ้าวันนึงเงินจะอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์” จวบจนวันนี้ วีซ่ายังคงดำเนินตามปณิธานอย่างแน่วแน่ และช่วยพัฒนาการค้า และการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลผ่านเครือข่ายที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในทุกที่ทั่วโลก
“หลายคนคิดว่าพวกเขารู้จัก วีซ่า เหล่าธุรกิจและผู้บริโภคต่างเชื่อในพลังของตัวหนังสือสี่ตัวที่พวกเขาเห็นเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นตอนเปิดกระเป๋าสตางค์ จ่ายเงินซื้อของ เดินเข้าร้านค้า หรือชำระเงินออนไลน์ สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจไม่ทราบคือเบื้องหลังการทำงานที่ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและปลอดภัย เครือข่ายที่ทำให้คุณชำระเงินได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก และบุคลากรชั้นแนวหน้าที่คิดค้นนวัตกรรมการชำระเงินอยู่ตลอดเวลา
ภารกิจของเราคือการทำให้คนทั่วโลกเข้าใจว่า วีซ่า เป็นมากกว่าบริษัทผู้ออกบัตรเครดิต และแท้จริงแล้ววีซ่าเป็นเครือข่ายระดับโลกที่เป็นพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” คุณลินน์ บิ๊กการ์ รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดระดับโลก ของวีซ่า
ในขณะที่วีซ่าเดินหน้าปรับเปลี่ยนการทำธุรกรรมบัตรเครดิตและเดบิตทั้งในรูปแบบบัตรและแบบดิจิทัล บริษัทฯ ยังมีบทบาทมากขึ้นในการในผู้นำการเคลื่อนย้ายเงินบนโลกใบนี้ ในปัจจุบันเครือข่ายของวีซ่ามีบัญชีผู้ถือบัตรกว่า 3.6 พันล้านราย ร้านค้าที่รับบัตรวีซ่ามากกว่า 70 ล้านร้านค้า คู่ค้าอีกนับหมื่นราย และขับเคลื่อนปริมาณเงินในรูปแบบดิจิทัลกว่า 11 ล้านล้านดอลล่าร์ต่อปี
เฉพาะช่วงห้าปีให้หลังมานี้ วีซ่าได้ใช้เงินลงทุนไปถึง 9 พันล้านดอลล่าร์ในเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอนาคตทางการค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการ ยกตัวอย่างเช่น เครือข่ายของวีซ่าช่วยให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระสามารถรับค่าจ้างแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถส่งและรับเงินระหว่างบัตรวีซ่าและบัญชีกว่าพันล้านบัญชีทั่วโลก รวมถึงการช่วยให้องค์กรขนาดใหญ่ชำระเงินข้ามพรมแดนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ตัวอย่างชิ้นงานในระยะแรกของการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของวีซ่า
“Meet Visa” ผลงานภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเครือข่ายวีซ่า ถ่ายทำโดย Wieden+Kennedy เอเจนซี่สุดครีเอทีฟที่มีรางวัลการันตีระดับโลก ซึ่งภาพยนตร์สั้นชิ้นนี้กำกับโดย Malik Hassan Sayeed ที่ต้องการเชิญชวนให้ทุกคนทั่วโลกได้มารู้จักกับวีซ่ามากยิ่งขึ้น ภาพยนตร์แนะนำซีรี่ย์นี้เป็นภาพถ่ายดิจิทัลขนาดสั้นที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเครือข่ายอันกว้างใหญ่ของวีซ่า ที่ช่วยส่งเสริมการค้าให้แก่ผู้คนทั่วโลก
การเปลี่ยนแปลงผ่านอัตลักษณ์ใหม่ของ วีซ่า – วีซ่า เป็นที่รู้จักมานานในเรื่องของความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย การเข้าถึง และจุดรับชำระที่มีอยู่ทั่วโลก แก่นแท้ของแบรนด์ที่นอกเหนือจากจุดมุ่งหมายที่ต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการทำธุรกิจในระดับสากลแล้ว วีซ่าได้ร่วมงานกับแบรนด์ดีไซน์เนอร์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Mucho ในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นถึงแบรนด์ที่ดูทันสมัยและไดนามิกมากขึ้น
แคมเปญ Meet Visa ได้แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไปให้เข้ากับยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นสีสันใหม่ที่ดูสดใสมากขึ้น ฟ้อนท์ใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีที่สุด ตลอดจนตราสัญลักษณ์แบรนด์ใหม่ที่สะท้อนถึงพันธกิจขององค์กร
ในปี 2565 อัตลักษณ์แบรนด์ใหม่ของวีซ่าจะปรากฏให้เห็นในกว่า 200 ประเทศที่วีซ่าดำเนินกิจการอยู่ เพื่อสื่อถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทซึ่งประกอบด้วย
การทำให้เงินสดและเช็คที่ใช้จ่ายโดยผู้บริโภคทั่วโลกต่อปีมูลค่ากว่า 17 ล้านล้านดอลล่าร์มาอยู่ในรูปแบบดิจิทัล
สร้างระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ ที่รวมถึงการชำระเงินระหว่างบุคคลแบบข้ามแดน และบริการใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ทำธุรกิจในรูปแบบดิจิทัลได้สะดวกยิ่งขึ้น ตลอดจนการคงไว้ซึ่งภารกิจหลักของเราที่ต้องกาให้วีซ่าเป็นเครือข่ายที่ปลอดภัย มีเสถียรภาพ และไว้วางใจได้มากที่สุด นำเสนอบริการและโซลูชั่นที่หลากหลาย ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรฟินเทคและแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก และพัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐทั่วโลก ตลอดจนการสร้างเทคโนโลยีสำหรับอนาคต
“การปรับโฉมแบรนด์ในครั้งนี้เป็นการสื่อให้เห็นถึงพันธสัญญาที่เรามีต่อทุกคนทั่วโลก และเป้าหมายที่เราจะบรรลุด้วยกันในอนาคต และในขณะที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกทยอยเปิดพรมแดน และการเคลื่อนที่ของเงินวิวัฒนาการไปในรูปแบบใหม่ ๆ จึงไม่มีช่วงไหนที่จะดีไปกว่านี้อีกแล้วที่ วีซ่า จะแสดงให้เห็นถึงบทบาทและความสามารถของเราในการที่จะส่งเสริมให้ผู้บริโภค ธุรกิจ และเศรษฐกิจเดินหน้าและก้าวไกลอย่างยั่งยืน” บิ๊กการ์ กล่าวปิดท้าย