25 ตุลาคม 2559 : นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST)ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (25 ต.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ อยู่ในกรอบ sideway เนื่องจาก นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อหุ้นลง หลังปัจจัยที่เคยเป็นบวกต่อตลาดหลายๆตัวเริ่มลดจำนวนลง การสูงขึ้นของตลาดหุ้นบางแห่งเป็นผลให้นักลงทุนเริ่มขายทำกำไรกัน ตัวแปรสำคัญตัวหนึ่ง คือ เรื่องดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นดัชนี benchmark ของดอกเบี้ยของประเทศอื่นๆ
ซึ่งในวันนี้นักลงทุนเริ่มรับรู้และปรับพอร์ตรอรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯไปบ้างแล้ว นอกจากนี้ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งประธานาธิบดีเข้ามาจะทำให้นักลงทุนต่างรอดูผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากมีผลต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯในช่วงต่อไป โดยเฉพาะหากนายทรัมป์เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ส่วนผลกำไรไตรมาส 3 ที่กำลังมีการรายงานอยู่เป็นปัจจัยเฉพาะตลาด และยังส่งผลบวกมาถึงตลาดหุ้นอื่นๆ เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาดขณะที่ในคืนที่ผ่านมา ตัวเลข PMI ของยุโรป เดือน ต.ค.เพิ่มจาก 52.6 เป็น 53.7 จุด ในเดือนนี้ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยุโรปขยายตัวดี
ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนตัวลง หลังการหารือระหว่างผู้ผลิตน้ำมันรวมถึงรัสเซียและซาอุฯ ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาที่ผลการหารือออกมาเพียงแค่ผู้ผลิตน้ำมันจะให้ความร่วมมือกัน แต่ยังไม่สามารถกำหนดโควต้าผลิตน้ำมันของประเทศที่จะเข้าร่วมโครงการได้ทำให้นักลงทุนต้องมารอดูกันต่อว่า ก่อนที่จะถึงวันประชุม OPECกับผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม (30 พ.ย.) จะมีตัวเลขโควต้าผลิตออกมาหรือไม่ ช่วงสั้นๆ จะทำให้ราคาน้ำมันดิบทรงๆตัวแถว $50 เหรียญ
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ความกังวลที่มีต่อบางปัจจัยกำลังลดระดับลงจึงดูเป็นบวกกับตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการไปจะทำให้นักลงทุนที่รอซื้อหุ้น กลับเข้ามาซื้อหุ้นกันตามปกติด้วย
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ บล.KTBST คาดว่ามีโอกาสที่จะเดินหน้าต่ออีกเล็กน้อย การแกว่งตัวของดัชนีฯ จะเป็นในลักษณะ sideway เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกหรือลบที่เด่นชัดเข้ามาในตลาดเป็นผลให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ตัวแปรที่จะมีผลต่อตลาดในระหว่างวันจะเป็นทิศทางค่าเงินบาท (ถ้าเงินบาทอ่อนค่ามากกว่าเงินเอเชียอื่นๆ จะเป็นลบต่อตลาดหุ้น)ราคาน้ำมันดิบในตลาด และผลการประชุมคณะรัฐมนตรี
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ภาพรวมของตลาดแม้เราจะคาดทิศทางดัชนีฯว่าจะสูงขึ้น แต่ด้วยแรงซื้อที่ยังมีอยู่จำกัด จึงแนะให้เลือกเพียงหุ้นเด่นของบางกลุ่มที่พอจะไปต่อได้ที่มีปัจจัยบวกหนุนมีความเสี่ยงต่ำ ในขณะที่หุ้นขนาดเล็กคาดจะกลับมาคึกคักอีกครั้งจากการเข้ามาเก็งงบไตรมาส 3 หุ้นที่ที่แนะนำวันนี้ CPALL , CENTEL , ILINK, TAE , VNG , SCI , LOXLEY มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,488-1,504 จุด