30 พฤศจิกายน 2564 : นางสาวดมิศา พิศิษฐวานิช ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านผลิตภัณฑ์และการตลาดลูกค้ารายย่อย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กว่า 1 ปีที่ผ่านมา Kept by krungsri ได้เปิดให้บริการกับลูกค้าโดยมีเป้าหมายในการเป็นผู้ช่วยการออมเงินของทุกคน เพื่อให้การออมเป็นไปได้จริงและสำเร็จตามเป้าหมาย จำนวนของลูกค้าที่เข้าใช้งาน Kept เติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยมีลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน Kept มากถึง 220,000 คน โดยใน 80% ของผู้ใช้งานเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็น Gen Y และ Gen Z และด้วยรูปแบบการออมเงินบน Kept ตามแนวคิด 1 กระเป๋า หลายกระปุก ที่ให้ลูกค้าตั้งเป้าหมายการออมได้ ใช้งานง่าย มีลูกเล่น และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การเก็บออมเงินหลากหลาย ด้วยกระปุกหลายประเภทที่มีให้ภายในแอป จึงทำให้จำนวนบัญชีที่เปิดในปีที่ผ่านมา มีมากกว่า 500,000 บัญชี
นอกจากนั้น ในปีนี้ยังมีจำนวนการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนที่เพิ่งเริ่มเปิดตัวแพลตฟอร์มให้ใช้งาน สะท้อนว่าผู้ใช้มีความคุ้นเคยผูกพันกับ Kept มากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะใช้บริการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินออมที่ตั้งไว้”
Kept มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) Kept จึงใส่ใจและให้ความสำคัญกับการออกแบบในทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างแท้จริง โดยจุดเด่นที่สุดที่ถือเป็นกุญแจความสำเร็จของ Kept คือ ฟีเจอร์การใช้งานที่สะดวก ใช้งานง่าย และเต็มไปด้วยความสนุก ไม่ว่าจะเป็น กระปุก Grow ที่ให้ดอกเบี้ยสูง และลูกค้าสามารถดูดอกเบี้ยได้ทุกวันเป็นแรงบันดาลใจให้เก็บออมเพื่อให้เงินงอกเงย
กระปุก Fun ที่มีลูกเล่นแอบเก็บเงินทุกครั้งที่ใช้จ่าย และสามารถสั่งเก็บเงินได้ให้เป็นอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Kept ที่ช่วยตอบโจทย์คนเก็บเงินไม่เก่งได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังมีแคมเปญสนุกที่เปิดตัวออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ แคมเปญชวนเพื่อน แคมเปญเปิดกระปุก ทำภารกิจการออมต่างๆ เป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้ Kept เป็นแอปฯ บริหารเงินออมที่ตรงใจคนรุ่นใหม่
ในด้านพฤติกรรมลูกค้า Kept พบว่า กว่า 70% ของเงินที่ Gen Z เก็บได้มาจากกระปุก Fun ซึ่งเป็นการแอบเก็บแบบอัตโนมัติ ขณะที่กลุ่ม Gen Y มักจะเก็บเงินเข้ากระปุก Grow และมีผลงอกเงยจากดอกเบี้ยมาก จากข้อมูลลูกค้ากลุ่มนี้พบว่า 30% ของลูกค้าลูกค้าที่เก็บเงินเข้า Grow นั้น ไม่เคยถอนเงินออกมาใช้เลย สะท้อนถึงความตั้งใจจริงของผู้ที่ใช้งาน Kept ในการเก็บออมเงิน
"แอป Kept เรารับฟังเสียงลูกค้า และดูพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อช่วยลูกค้าเก็บออม และจะทำอย่างไรให้เงินเก็บของลูกค้าต่อยอดและงอกเงยมากขึ้น โดยบริษัทฯ จะคัดสรรตัวเลือกการลงทุน และออกแบบบริหารเงินให้สนุกสนานไปพร้อมกับการสร้างวินัยของการออมอย่างต่อเนื่อง"นางสาวดมิศา กล่าว
ทั้งนี้ จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนมีความตระหนักในเรื่องของการออมมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 4 ข้อ 1.ให้ความสำคัญการออมมากขึ้น 2. เก็บเงินได้มากขึ้นจากการลดคชจ.3.ใช้ช่องทางดิจิทอล จัดการบริการการเงินของตนเอง 4. การใช้แอพริเคชั่นได้อย่างมีความชำนาญมากขึ้น จึงทำให้ เคป เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีแคมเปญสนุกๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง และลูกค้าสามารถติดต่อ Kapt ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ล่าสุดได้เปิดตัวบัญชีใหม่ ภายใต้ชื่อ Together savings หรือกระปุก Together เป็นกระปุกที่ดีไซน์ฟีเจอร์ให้ตอบโจทย์การเก็บออมเงินแบบมีเป้าหมายจะเก็บคนเดียว หรือจะเป็นกลุ่ม กับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก ก็สามารถทำได้ โดยทุกคนในกลุ่มสามารถดูยอดเงินในกระปุก มองเห็นการเข้าออกของเงินร่วมกัน และยังสามารถใส่ Note เมื่อทำรายการเพื่อช่วยให้รู้ว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้าง หรือได้เงินเพิ่มเข้ามาจากอะไร และจะมีการแจ้งเตือนไปยังสมาชิกเมื่อมีเงินออกทุกครั้ง
ทั้งนี้ กระปุก Together ไม่ใช่บัญชีร่วม แต่เปิดให้คนสนิทเข้ามามีส่วนร่วมดูและเก็บออมร่วมกัน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่ากระปุก Together นี้ จะทำให้เป้าหมายและอนาคตในการเก็บเงินร่วมกันชัดเจนขึ้นสำหรับทุกคน มีการออกแบบหน้าจอที่เข้าใจง่าย และสามารถใส่รูป ใส่ชื่อกระปุกตามที่ต้องการได้อีกด้วย โดยคนที่ชวนเข้ามาดูกระปุก Together แค่มีแอป Kept เหมือนกัน ก็สามารถมาดูและเก็บด้วยกันได้
สำหรับลูกค้าใหม่ที่สนใจสมัครใช้บริการแอป ปัจจุบัน Kept มีแคมเปญพิเศษ เพียงสมัครแอป Kept พร้อมโอนเงินเข้ามาขั้นต่ำ 1,000 บาท จำนวน 1 รายการและเปิดกระปุก Fun ให้สำเร็จภายใน 14 วัน จะได้รับโค้ดส่วนลด Shopee มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ม.ค. 2565 และยังมีแคมเปญอื่นๆ ให้ติดตามได้ที่ www.keptbykrungsri.com
“สำหรับก้าวต่อไปของ Kept เราจะยังคงสนับสนุนคนไทยให้เก็บออมอย่างเป็นระบบ โดยตั้งเป้าจะมีจำนวนผู้ใช้งานที่ 1 ล้านคน หรือคาดว่าจะมีการเปิดบัญชีเพิ่มขึ้น 3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดเงินออม 3 แสนล้านบาท ภายในปี 2567 ควบคู่ไปกับการสร้างนวัตกรรมการบริหารเงิน ต่อยอดสู่ความมั่งคั่งและมั่นคงในระยะยาว” นางสาวดมิศา กล่าวสรุป