25 พฤศจิกายน 2564 : ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อน โครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ในรูปแบบ Virtual Event โดยมีผู้แทนสำนักงาน คปภ. ภาค ทั้ง 9 ภาค ทั่วประเทศ ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักเรียนนักศึกษา ประชาชน ร่วมงานผ่านระบบ Zoom และ และรับชมงานได้ที่ Facebook และ Youtube กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย
เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า การประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 หรือประกันภัย พ.ร.บ. ถือเป็นประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้เจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถสำหรับรถทุกคันทุกประเภท ต้องจัดทำเพื่อเป็นหลักประกันให้กับผู้ประสบภัยจากรถทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงคนเดินเท้า
หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต บาดเจ็บ ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ จะได้รับการเยียวยาค่ารักษาพยาบาลตามจริง ไม่เกินวงเงินความคุ้มครองของกรมธรรม์ (กรณีบาดเจ็บคุ้มครองสูงสุด 80,000 บาท กรณีเสียชีวิตคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท) แต่ในปัจจุบันยังมีผู้ประสบภัยจากรถเป็นจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถเข้าถึงสิทธิจากการประกันภัยดังกล่าวได้
นอกจากนี้ จากข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนปี 2563 พบว่า มีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ปี 2563 รวม 17,831 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 27.20 ต่อประชากร 1 แสนคน และจากสถิติการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 พบว่ามีการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถเป็นจำนวนกว่า 151 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีจำนวนรถที่ไม่จัดทำประกันภัย พ.ร.บ. เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์
กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงาน คปภ. มีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญในการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น (กรณีบาดเจ็บ 30,000 บาท กรณีเสียชีวิต 35,000 บาท) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถให้ได้รับการเยียวยาอย่างทันท่วงที ในกรณีรถที่ก่อให้เกิดความเสียหายไม่มีประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัยพ.ร.บ.) หรือผู้ประสบภัยไม่อาจเข้าถึงสิทธิจากการประกันภัยได้ จึงได้จัดทำ โครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถได้เห็นความสำคัญของประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัยพ.ร.บ.) และบทลงโทษจากการไม่ทำประกันภัยรถภาคบังคับ
โดยเน้นการรณรงค์ในเชิงรุกเพื่อให้เข้าถึงประชาชนทั่วทุกภาค ผ่านโครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ที่มีการดำเนินการในรูปแบบทั้ง Online และ Offline ซึ่งจะมีกิจกรรมที่มอบทั้งสาระความรู้ และความบันเทิงอย่างครบถ้วนสำหรับการดำเนินงานในโครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่
1. กิจกรรม “ส่งรักทั่วไทย อุ่นใจเมื่อมีประกันภัย พ.ร.บ.” เป็นกิจกรรมให้ความรู้แก่ประชาชนในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยในวันนี้นอกจากการแถลงข่าวจากกรุงเทพมหานครผ่านสื่อออนไลน์ไปยังผู้ชมทั่วประเทศแล้ว ยังมีกิจกรรมพบปะพี่น้องภาคใต้ จังหวัดสงขลาพร้อมกัน และอีก 3 ครั้ง เราจะไปพบพี่น้องภาคตะวันตกที่จังหวัดกาญจนบุรี ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 21 ธันวาคม 2564 และภาคเหนือที่จังหวัดลำปาง ในเดือนมกราคม 2565 ส่วนภาคอื่น ๆ สำนักงาน คปภ. จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมให้ความรู้ด้านประกันภัย พ.ร.บ. กับประชาชนอย่างเต็มที่
2. กิจกรรมสร้างการเข้าถึงกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ. จำนวน 10,000 ฉบับ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ สำนักงาน คปภ. มีความตั้งใจที่จะให้ระบบประกันภัยได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยง และเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถ ใช้ถนน และเนื่องในโอกาสที่ใกล้จะถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565 สำนักงาน คปภ. จึงปรารถนาที่จะส่งมอบ พ.ร.บ. ทั้ง 10,000 ฉบับนี้ เป็นของขวัญปีใหม่ แทนความห่วงใยจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย สำนักงาน คปภ. ให้กับพี่น้องประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถ โดยท่านสามารถเข้าไปลงทะเบียน เพื่อรับประกันภัย พ.ร.บ. ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามเงื่อนไขที่กำหนดที่ www.พรบรุกทั่http://xn--o3cwn0j.com/
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ยังมีพิธีกรมากความสามารถมากมาย อาทิ ดาว อภิสรา ดารานักแสดง แพนเค้ก เขมนิจ และ ท็อป จรณ ร่วมแสดงเจตนารมณ์ขับเคลื่อนโครงการ “พ.ร.บ. รุกทั่วไทย” รวมทั้งมินิคอนเสิร์ตจาก จ๊ะ นงผณี และกิจกรรมการเล่นเกมแจกของรางวัลกับพิธีกรคู่ นุ้ย ธนวัฒน์ (ดีเจนุ้ย) และ ดาด้า วรินดา (ดีเจดาด้า) เพื่อให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถทุกคน โดยเฉพาะเจ้าของรถจักรยานยนต์ ได้ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม รวมทั้งเห็นความสำคัญของการมีประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.)
“ประกันภัย พ.ร.บ. ถือเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานสำหรับการใช้รถ ใช้ถนน เพราะประกันภัย พ.ร.บ. เป็น สิ่งแรกที่เข้ามาช่วยเยียวยาเมื่อประสบอุบัติเหตุจากรถ ดังนั้น ผู้เป็นเจ้าของรถและผู้ครอบครองรถทุกคนจึงควร ที่จะทำและอย่าปล่อยให้ประกันภัย พ.ร.บ.ขาด เพราะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายซึ่งมีโทษปรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถจักรยานยนต์ที่นอกจากจะมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดแล้ว ยังพบว่าส่วนใหญ่ยังเป็นรถที่ไม่มีการจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. มากที่สุดอีกด้วย
ซึ่งสำนักงาน คปภ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ พ.ร.บ.รุกทั่วไทย ที่จัดขึ้นนี้ จะสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ และสามารถทำให้ประชาชนเข้าถึงระบบประกันภัย และนำระบบประกันภัยมาเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงจากการใช้รถใช้ถนน และยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนทุกคนช่วยกันรับผิดชอบต่อส่วนรวมหรือต่อผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันอีกด้วย ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย พ.ร.บ. สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ.กล่าว ในตอนท้าย