11 พฤศจิกายน 2564 : นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา-2019 (โควิด-19) ระลอก 3 ที่ผ่านมา ซึ่งได้เกิดการระบาดในวงกว้างและส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยอาการหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นำมาซึ่งปัญหาผู้ป่วยล้นเตียงในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน แม้ทางภาครัฐจะได้เร่งตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม พร้อมขยายการให้บริการ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถรองรับจำนวนผู้ป่วยที่ทวีจำนวนในขณะนั้นได้อย่างเพียงพอ
ธนาคารกรุงเทพ จึงได้ร่วมมอบเงินจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการ “โรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ” ร่วมกับภาคเอกชนผู้ก่อตั้งโครงการ ประกอบด้วย โรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) บริษัท อีอีซี เอ็นจิเนียริ่ง เน็ทเวิร์ค จำกัด บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล จำกัด มูลนิธิธนินท์ เทวี เจียรวนนท์ มูลนิธิอริยวรารมย์ และมูลนิธิพุทธรักษา
ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและบรรเทาวิกฤติการขาดแคลนเตียงในโรงพยาบาลหลัก ซึ่งเริ่มให้บริการมาตั้งแต่ช่วงเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 จนสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง โดยได้เปิดรับผู้ป่วยรายใหม่มาจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 และให้บริการรักษาตลอดจนสิ้นสุดโครงการ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
สำหรับโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ เป็นโรงพยาบาลสนามขนาด 450 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยระดับสีเขียวและเหลืองอ่อน โดยแยกเป็นเตียงสำหรับผู้ป่วยหญิง 225 เตียง ผู้ป่วยชาย 225 เตียง พร้อมด้วยห้องอาบน้ำ 44 ห้อง แยกหญิงชาย และห้องสุขา 44 ห้อง เพื่อให้เกิดสุขภาวะที่ดี และปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีในชมุชน ประกอบกับยังมีโรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิลเฮลท์แคร์เป็นหลักทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข หากมีผู้ป่วยที่มีอาการหนักขึ้นก็สามารถย้ายไปอยู่ที่ห้อง ICU ของทางโรงพยาบาลที่ได้ขยายเพิ่มจาก 20 ห้อง เป็น 85 ห้องเพื่อรองรับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
“ธนาคารเล็งเห็นว่าการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือชุมชน และสังคม ทั้งในและนอกพื้นที่แล้ว ยังเป็นการแบ่งเบาภาระให้บุคลากรทางการแพทย์ช่วงที่เกิดปัญหาสถานการณ์แพร่ระบาดอย่างหนัก รวมทั้งช่วยสนับสนุนการตรวจค้นหาเชิงรุกของโรงพยาบาลเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นการช่วยคัดกรองแยกเคสผู้ป่วยไม่มีอาการหรืออาการน้อยออกมารักษาที่ โรงพยาบาลสนามแห่งนี้
สอดคล้องกับเจตนารมณ์ที่ผ่านมาของธนาคารซึ่งให้ความสำคัญกับการได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือภาคส่วนต่างๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาโดยตลอด อาทิ มอบเงิน 40 ล้านบาท เพื่อร่วมสมทบทุนใน 4 โรงพยาบาล เพื่อร่วมสู้ภัยโควิด-19 , การให้ความร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 8 เพื่อเปิดพื้นที่สโมสรธนาคารกรุงเทพเป็นจุดบริการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มผู้ประกันตน รวมทั้งการมอบชุดตรวจ ATK พร้อมกล่อง บัวหลวงห่วงใย ซึ่งภายในบรรจุยาและเวชภัณฑ์เพื่อดูแลผู้ป่วยโควิด-19 รวมทั้งกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เป็นต้น” นายทวีลาภ กล่าวทิ้งท้าย