10 พฤศจิกายน 2564 : นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าว “บริษัทฯ เปิดผลการดำเนินงานในรอบ 3 เดือน (กรกฏาคม-กันยายน 2564) มีรายได้คงที่จำนวน 3,443 ล้านบาท คิดเป็นรายได้รวมในรอบ 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน 2564) จำนวน 11,570 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังสามารถลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมได้ยังมีนัยยะสำคัญ
กลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล” และ กลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล” มีการบันทึกรายได้รวมในรอบ 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2564) เป็นจำนวน 1,618 ล้านบาท โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมยังคงได้รับอานิสงค์จากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ การขยายตัวของภาคการส่งออก การย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนเพื่อบริหารห่วงโซ่สินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้งสถานการณ์ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าที่ส่งผลให้ความต้องการพื้นที่เช่าคลังสินค้าระยะสั้นเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบันมีอัตราผู้เช่าโรงงานและคลังสินค้าสูงเกินเป้าหมายอยู่ที่ 85% ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมได้รับผลกระทบบางส่วนจากผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด ทั้งนี้ ธุรกิจอาคารสำนักงานชั้นนำยังคงอัตราค่าเช่าเฉลี่ยได้ในระดับสูงที่ 91%
การระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงและยืดเยื้อต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ด้วยมาตรการล็อคดาวน์ซึ่งมีการปิดแคมป์คนงานและชะลอการก่อสร้างบางส่วน ทำให้ต้องเลื่อนเปิดโครงการ 3 แห่งในรอบไตรมาสที่ผ่านมา เป็นช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 และ ไตรมาส 1 ปี 2565 สำหรับโครงการใหม่อีก 1 โครงการที่มีกำหนดเปิดในไตรมาส 4 ปี 2564 ยังคงเป็นไปตามแผน
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการพัฒนารูปแบบบ้านที่จับกลุ่มตลาดมีกำลังซื้อสูง โดยโครงการแกรนดิโอ สาทร โครงการบ้านหรู ดีไซน์ใหม่ ที่เปิดตัวไปในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และสามารถสร้างยอดพรีเซลช่วงเปิดตัว 2 วันแรก ได้สูงเกินเป้าถึง 3 เท่า ในจำนวน 688 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรวมตลอดระยะเวลา9เดือนมีจำนวน 23,322 ล้านบาท
บริษัทฯ ได้รับการปรับอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือจากทริสเรตติ้งขึ้นเป็นระดับ A แนวโน้มคงที่ พร้อมยังได้รับจัดอันดับและการรับรองมาตรฐานด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) รวม 3 มาตรฐานในปี 2564 ได้แก่ การได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน การประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการ (CG Rating) ในระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ” และ การได้รับจัดอันดับมาตรฐาน GRESB ในระดับ A ด้านการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนของบริษัทในหมวดหมู่ Southeast Asia Diversified Business โดยทั้งหมดนี้ได้ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มอสังหาฯครบวงจร
ผลงานดำเนินงานด้านการเงิน รอบระยะเวลา 9 เดือน (มกราคม – กันยายน)