WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอาทิตย์ ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
ลงทุน “ทองคำ” ยังไงให้คุ้ม?

18 ตุลาคม 2564 : การลงทุนเป็นการเพิ่มความมั่นคงให้กับสถานะทางการเงิน แต่นักลงทุนมือใหม่หลายคนไม่รู้ว่าควรจะเริ่มลงทุนอะไร อย่างไรดี วันนี้ มีทางเลือกสำหรับนักลงทุนมือใหม่ และงบน้อยค่อยๆ สะสมมาฝากไว้ให้พิจารณา การลงทุนทางเลือกที่น่าสนใจอีกรูปแบบหนึ่งนั่นคือ “การลงทุนทองคำ”

“ทองคำ” ถือเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เนื่องจากหาซื้อได้ง่ายและขายได้คล่อง ธนาคารแห่งชาติทั่วโลกก็นิยมใช้ทองคำเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศ ทำให้ราคาทองคำเป็นตัวบ่งชี้เศรษฐกิจโดยรวมของช่วงนั้นๆ ได้อีกด้วย หลายๆ คนเลือกลงทุนทองคำมีเหตุผลหลายอย่างด้วยกัน แต่การลงทุนในทองคำนับยังเป็นหนึ่งในวิธีการสร้างผลตอบแทนที่ดี และอาจทำกำไรระยะสั้นได้สูงอีกด้วย แต่ปัจจุบันราคาทองคำมีความผันผวนมาก ก่อนที่จะนำเงินไปซื้อทองคำแท่ง หรือลงทุนทองคำในรูปแบบอื่นๆ นักลงทุนต้องศึกษา ทั้งเรื่องราคาและการเก็บรักษาด้วยเช่นกัน

การลงทุนทองคำ มีทั้งแบบซื้อทองคำแท่งและทองคำรูปพรรณ แต่ผลตอบแทนไม่เหมือนกัน แม้ทั้งสองรูปแบบ ทองคำจะนับเป็นทอง “1 บาท” เท่ากัน แต่น้ำหนักจริงไม่เท่ากัน ทองคำแท่ง 1 บาท หนัก 15.244 กรัม ส่วนทองรูปพรรณ 1 บาท หนัก 15.16 กรัม ทำให้ทองคำทั้งสองแบบที่ความบริสุทธิ์ต่างกันมีราคาต่อ 1 บาทไม่เท่ากันด้วย

การลงทุนในทองคำรูปพรรณ สามารถซื้อตามน้ำหนักที่ต้องการได้เลย สวมใส่เป็นเครื่องประดับได้ในระหว่างที่ถือครอง แต่มี ข้อเสีย คือ มีค่ากำเหน็จ หรือค่าแรงในการทำทองที่เพิ่มเข้ามา แถมสึกกร่อนได้เมื่อนำไปขายคืนก็จะถูกหักค่าเสื่อมประมาณ 5% จึงเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการเก็บเป็นสินทรัพย์ระยะยาว หรือเป็นมรดกตกทอดมากกว่าการลงทุนเพื่อทำกำไรระยะสั้น

ส่วนการซื้อทองคำแท่ง มักจะมีการกำหนดซื้อขั้นต่ำและอาจมีค่าบล็อกบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีค่ากำเหน็จจึงมีราคาถูกกว่าทองคำรูปพรรณ เวลาขายคืนไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือมีน้อยกว่าทองรูปพรรณมาก การซื้อทองคำแท่ง จึงทำกำไรได้มากกว่าทองรูปพรรณและเป็นที่นิยมสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในทองอย่างจริงจัง ทองคำแท่งที่ลงทุนโดยทั่วไปมี 2 ประเภท คือ ความบริสุทธิ์ 96.5% และ 99.99% โดยที่ในประเทศไทยจะนิยมลงทุนในประเภทแรกมากกว่า

อย่างไรก็ดี เพื่อให้การลงทุนทองคำได้ผลตอบแทนแบบเป็นกอบเป็นกำ ปัจจุบันมีช่องทางการลงทุนหลากหลาย และด้วยวิวัฒนาการการลงทุนที่เปลี่ยนไปตามดิสรัปชัน (Disruption) ของเทคโนโลยีที่เข้ามา ทำให้การลงทุนทองคำมีความสะดวก ง่ายต่อการลงทุนมากขึ้น รวมไปถึงการลงทุนผ่านช่องทางธนาคารนับว่าง่ายสำหรับนักลงทุนด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างช่วงปี 2563 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับฮั่วเซ่งเฮง เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถซื้อ-ขาย ทองคำ ราคาเดียวกับตลาดโลกแบบเรียลไทม์ได้ ด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) บนแพลตฟอร์ม Hua Seng Heng USD Gold Trade ผ่านบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit Account: FCD) ส่วนธนาคารกรุงเทพ ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน เพิ่มทางเลือกในการลงทุนและทำกำไรได้มากกว่าเดิม

และล่าสุด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) พลิกโฉมการลงทุนทองคำ โดยการเปิดซื้อขายทองคำออนไลน์แบบครบวงจรครั้งแรกในประเทศไทย ผ่าน “Krungthai Gold Wallet” บนแอปเพลิเคชั่นเป๋าตัง ดูหวือหวาไม่เบา นอกจากจะเป็น Thailand Open Digital Platform ให้นักลงทุนซื้อ-ขายทองคำได้สะดวกและปลอดภัย แถมไม่มีค่าธรรมเนียม โดยอิงราคาตลาดโลก เป็นการซื้อขายเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐโดยตรงแบบเรียลไทม์ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษ ตัดบัญชีและรับเงินได้ทันที นับว่าเป็นการตอบโจทย์ผู้ลงทุนยุคใหม่ โดยการนำร่องกับ “MTS Gold แม่ทองสุก” ซึ่งจะเริ่มวันที่ 25 ตุลาคม 2564 นี้

สำหรับจุดเด่นของการลงทุนดังกล่าว นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า “Krungthai Gold Wallet” บนแอปฯเป๋าตัง เป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปเข้าถึงการลงทุนทองคำบริสุทธิ์ 99.99% จากร้านทองชั้นนำได้แบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่เปิดบัญชี เติมและแลกเงิน ซื้อและขายทองคำ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปร้านทองหรือธนาคาร ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่ และลดภาระการเก็บรักษาทองคำของผู้ลงทุน

ลูกค้าสามารถลงทุนซื้อ-ขายทองคำได้ทุกที่ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยลงทุนขั้นต่ำเพียง 0.1 ออนซ์ หรือประมาณ 6,000 บาท (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนและราคาทองคำ ณ วันที่ 7 ต.ค. 64) เปิดให้ลงทุนในช่วงวันทำการจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ถึง 02.00 น. เพื่อให้นักลงทุนซื้อ-ขายได้อย่างต่อเนื่อง ในเวลาที่ตลาดต่างประเทศเปิดทำการ ทำให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสจากการปรับตัวขึ้นลงของราคาทองคำในตลาดโลก โดยราคาซื้อขายอ้างอิงตามราคาตลาดโลก บนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ลดแรงกดดันจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

ทั้งนี้ บริการซื้อขายทองคำผ่าน Krungthai Gold Wallet นำร่องให้บริการ วันที่ 25 ตุลาคม 2564 ร่วมกับ MTS GOLD แม่ทองสุก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการค้าทองคำอันดับต้นๆของประเทศ เมื่อมีการซื้อทองคำ ทองคำจะถูกเพิ่มเข้าในวอลเล็ตทองคำที่เปิดกับร้านทองทันที และเมื่อกดขายทองจะได้รับเงินเข้าบัญชีทันทีเช่นกัน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น

นักลงทุนสามารถซื้อขายทำกำไรจากราคาทองโลก โดยตัดหรือรับเงินในบัญชีดอลลาร์สหรัฐได้โดยตรง ซึ่งสามารถเปิดบัญชีสกุลเงินดอลลาร์ เพื่อซื้อขายเงินดอลลาร์แบบออนไลน์ครบวงจร (eFCD) ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นการให้บริการ eFCD ครั้งแรกของประเทศ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษที่ดีกว่าการแลกผ่านเคาท์เตอร์ธนาคาร ซึ่งต่อยอดมาจากความสำเร็จของ Krungthai Travel Card ที่ธนาคารได้ริเริ่มให้บริการเป็นรายแรก

พอฟังแบบนี้แล้ว... นักลงทุนทั้งมือใหม่ มือเก๋า 25 ตุลาคมนี้ สามารถเริ่มลงทุนทองคำแบบไม่มีค่าธรรมเนียมบนแอปฯเป๋าตังได้ทันที ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP