กรุงเทพฯ 18 ตุลาคม 2559 : กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เผยรายได้จากการท่องเที่ยวและภาคเกษตร หนุนกำลังซื้อครัวเรือนทุกภูมิภาคปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับภาระหนี้รถคันแรกทยอยลดลง ดึงกำลังซื้อเพิ่มขึ้น 8,000-12,000 บาท คาดเศรษฐกิจเติบโต 3.2% ในปี 2559 และ 3.3% ในปี 2560 โดยกนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องไปจนปี 2560
ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ที่ปรึกษาและหัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะขยายตัว 3.2% และ 3.3% ในปี 2559 และ 2560 ตามลำดับ โดยแรงขับเคลื่อนจะมาจากภายในประเทศเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นกำลังการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชนที่มีบทบาทมากขึ้น รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโครงสร้างพื้นฐานภายใต้งบประมาณ 7.2 แสนล้านบาท ในช่วงกลางปี 2560
กำลังซื้อของครัวเรือนมีแนวโน้มดีขึ้นในทุกภูมิภาค จากรายได้ท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง และรายได้ภาคเกษตรที่ราคาสินค้าปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งยังได้รับผลบวกจากมาตรการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อย รวมถึงมาตรการเพิ่มรายได้และลดหนี้น่าจะมีประสิทธิผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค โดยผ่านมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. และการปรับขึ้นเงินเดือนลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ
รายได้ภาคเกษตรจะฟื้นตัวชัดเจนขึ้น เมื่อภัยแล้งคลี่คลายลงและผลผลิตข้าวเริ่มออกสู่ตลาดในปลายปีนี้ ขณะเดียวกันฐานะการเงินของครัวเรือนทยอยฟื้นตัว เนื่องจากภาระหนี้จากรถคันแรกของครัวเรือนทยอยหมดลงนับจากปลายปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้กำลังซื้อของครัวเรือนเพิ่มขึ้น 8,000-12,000 บาท
การท่องเที่ยว คาดว่าจะยังมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป โดยประเมินว่า การแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญจะมีผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนระยะสั้น จึงยังคงคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีไว้ที่ 33.3 ล้านคน
แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผนวกกับทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกจะสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทยอยปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายของธปท.ที่ 1-4% ในเดือนธันวาคมปีนี้ จึงคาดว่า กนง. น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
โดยสรุปแล้ว เศรษฐกิจไทยในปี 2560 จะเติบโต 3.3% มาจากปัจจัยบวกมาจากภาครัฐดำเนินนโยบายได้ต่อเนื่องหลังการลงประชามติ, นโยบายสร้างความเข้มแข็งด้านอุปทาน เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และพรบ.หนุนการลงทุน, การลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา, ภัยแล้งคลี่คลาย หนี้โครงการรถคันแรกหมดลง, ความแข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยว และพื้นฐานเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ปัจจัยลบนั้นยังคงเป็นความกังวลด้านการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก และการชะลอตัวของจีน ความผันผวนของตลาดเงิน หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง การปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งมีผลกระทบในระยะสั้น และปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น ความสามารถในการแข่งขัน และการขาดแคลนแรงงาน