30 กันยายน 2564 : ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ.ผนึกความร่วมมือกับ สมาคมศิษย์เก่าสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง (สวปส.) สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย รวมทั้งพนักงานในองค์กรของสำนักงาน คปภ. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคระดมเงินบริจาค มอบวัคซีนให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง อาทิ คนชรา ผู้ที่มีโรคประจำตัว สตรีมีครรภ์ และกลุ่มผู้พิการ ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
เนื่องจากกลุ่มผู้พิการและกลุ่มผู้เปราะบางเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายและอาจมีอาการที่รุนแรง รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตสูง จึงควรเร่งให้เข้าถึงและได้รับวัคซีนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในระดับบุคคลและภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วย “ลดป่วยรุนแรง ลดตาย รักษาหายเร็ว”
โดยจัดหาและกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 “ซิโนฟาร์ม” จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 10,000 ราย (20,000 โดส) เพื่อจัดสรรให้กับประชาชนกลุ่มผู้พิการและกลุ่มเปราะบางยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลกลุ่มผู้พิการและกลุ่มเปราะบางสำหรับการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งการจัดหาสถานที่และบุคลากรทางการแพทย์ในการให้บริการฉีดวัคซีนกว่า 30 แห่งใน 18 จังหวัด ภายใต้โครงการความร่วมมือ “ประกันภัยรวมใจมอบวัคซีนต้านโควิดสู่ประชาชน”
ทั้งนี้ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายไปแล้ว จำนวน 7,196 คน คิดเป็นร้อยละ 71.96 โดยได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเปราะบางวันแรกเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา และในวันนี้ได้มีกลุ่มเปราะบางประมาณ 60 คน มารับวัคซีนเข็มแรกที่สำนักงาน คปภ. โดยมีพยาบาลและเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์มาบริการฉีดวัคซีน
สำหรับการฉีดวัคซีนส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ โดยมีแผนฉีดวัคซีนแล้วเสร็จในต้นเดือนตุลาคม 2564 นอกจากนี้ เงินบริจาคส่วนที่เหลือจะนำไปจัดสร้างห้อง Negative Pressure เพื่อมอบให้โรงพยาบาลกุยบุรี และโรงพยาบาลที่ประจวบคีรีขันธ์
"โครงการนี้สามารถระดมเงินบริจาคและวัคซีน รวมทั้งบริหารจัดการหากลุ่มเป้าหมายและจัดฉีดวัคซีนตามกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้เวลาดำเนินการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเพราะได้รับความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเทสรรพกำลังในการดูแลพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่เป็นช่องทางให้เราได้ร่วมกันบริจาควัคซีน รวมทั้งสมาคมศิษย์เก่าสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง (สวปส.) ภาคธุรกิจประกันภัย และพนักงานของสำนักงาน คปภ. ที่ร่วมแรงร่วมใจบริจาคเงินเพื่อจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย"
ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอยู่ จึงหวังว่าโครงการนี้จะช่วยจุดประกายให้ภาคธุรกิจหรือหน่วยงานที่มีศักยภาพช่วยจัดหาวัคซีนทางเลือกเพื่อมาฉีดให้กับประชาชนกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้ และเมื่อประชาชนทั่วประเทศได้รับวัคซีนครบถ้วน ก็จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ให้กับประเทศไทยสามารถก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปได้” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย