27 กันยายน 2564 : นายเดชพินันท์ สุทัศนทรวง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส – ปฏิบัติการสินเชื่อรายย่อย ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการพิเศษ “คืนรถจบหนี้” ของธนาคารทิสโก้ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าเช่าซื้อและลูกค้าจำนำทะเบียนรถยนต์ ในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 มีทางเลือกในการคืนรถนั้น
ขณะนี้ใกล้จะสิ้นสุดระยะเวลาโครงการในวันที่ 30 กันยายน 2564 นี้แล้ว ธนาคารจึงขอเชิญชวนลูกค้าที่คิดว่าจะไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดต่อไปไหว ให้เข้ามาลงทะเบียนรักษาสิทธิ์ไว้ก่อน เพื่อรักษาประวัติทางการเงินที่ดีไว้ เพราะหากผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ในอนาคตยังมีโอกาสกลับมาขอสินเชื่อได้ใหม่
ปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการมาแล้วจำนวน 3,100 ราย ซึ่งมาจากหลากหลายกลุ่มอาชีพทั่วประเทศ อาทิ กลุ่มค้าขาย กลุ่มก่อสร้าง กลุ่มรับจ้างทั่วไป กลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว หรือกระทั่งกลุ่มพนักงานเงินเดือนประจำ ขณะเดียวกันก็ยังมีลูกค้าทยอยลงทะเบียนรักษาสิทธิ์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่ปิดบัญชีไปได้เรียบร้อยแล้ว
“สิ่งที่ธนาคารดีใจ คือมีลูกค้าที่ปิดบัญชีไปแล้ว ส่งจดหมาย ส่งข้อความ เข้ามาขอบคุณที่ธนาคารจัดตั้งโครงการพิเศษนี้ขึ้นมา และขอบคุณที่ธนาคารยกหนี้ให้จริง นั่นถือเป็นความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายของโครงการ เพราะธนาคารตั้งใจเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ เป็นการยกระดับความช่วยเหลือเพิ่มเติม ควบคู่ไปพร้อมกับมาตรการอื่นๆ อาทิ การปรับลดค่างวด การขยายระยะเวลาชำระหนี้ เป็นต้น” นายเดชพินันท์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า มีลูกค้าหลายคนกังวลและตั้งคำถามมากมายในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าธนาคารจะยกหนี้ให้จริงหรือไม่ จึงขอยืนยันอีกครั้งว่าธนาคาร “ยกหนี้ให้จริง” ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด นั่นคือ ต้องเป็นลูกค้าเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถยนต์ของทิสโก้ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของโควิด 19 ผ่อนชำระค่างวดตามสัญญามาแล้วไม่น้อยกว่า 12 งวด และรถยนต์จะต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อยใช้งานได้
หากได้รับการอนุมัติธนาคารจะไม่ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม ไม่คิดค่าธรรมเนียม พร้อมระบุสถานะเป็นลูกค้า “ปิดบัญชี” ถือเป็นการปิดหนี้โดยสมบูรณ์โดยไม่มีภาระหนี้ผูกพันในอนาคต และหากขายรถได้มูลค่าสูงกว่าภาระหนี้คงค้าง ธนาคารก็จะคืนเงินส่วนที่เกินภาระหนี้ให้แก่ลูกค้าด้วย
ลูกค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.tisco.co.th รวมถึงติดตามข่าวสารผ่านช่องทางดังกล่าวและที่ Line @TISCO / Facebook Fanpage TISCO หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 2633 6000 หรือ 0 2080 6000