22 กันยายน 2564 : นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) เปิดเผยว่า เพื่อสร้างสรรค์ทางเลือกการลงทุนในธุรกิจแห่งอนาคตของโลก และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า ล่าสุด บลจ.ทิสโก้ได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ FinTech (TFINTECH) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง)
กองทุนรวมตราสารทุน เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน BGF FinTech Fund ชนิดหน่วยลงทุน I2 USD (กองทุนหลัก) บริหารและจัดการโดย BlackRock (Luxembourg) S.A. เน้นลงทุนในบริษัทที่มีรายได้จากการประยุกต์เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 21 - 29 กันยายน 2564 ทั้งนี้ กองทุนนี้กระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
สำหรับโอกาสการเติบโตของธุรกิจ FinTech ในอนาคตนั้น Fisglobal ประเมินว่า ภายในปี 2567 การใช้จ่ายเงินผ่านระบบดิจิทัล e -Wallet และ เดบิต เครดิตการ์ด จะมีสัดส่วน 85% ของธุรกรรมในอีคอมเมิร์ซ เพิ่มจากปี 2563 อยู่ที่ 80%* ขณะที่ PwC ประเมินว่าปริมาณการใช้จ่ายโดยไม่ใช้เงินสดจะเติบโตขึ้นถึง 3 เท่า ภายในปี 2573**
นายสาห์รัช กล่าวอีกว่า สำหรับจุดเด่นของกองทุน TFINTECH คือ กองทุนหลักบริหารจัดการโดย BlackRock บริษัทจัดการกองทุนที่มีขนาดใหญ่ชั้นนำของโลก โดยชนิดหน่วยลงทุน I2 USD จะมีค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการที่ค่อนข้างน่าสนใจกว่าชนิดหน่วยลงทุน D2 USD อีกทั้งกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในธุรกิจการเงินที่ใช้ FinTech มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น ธุรกิจการชำระเงิน ธนาคารดิจิทัล สินเชื่อผู้บริโภคบนแพลตฟอร์มดิจิทัล การลงทุนและตลาดหลักทรัพย์ ประกัน และซอฟต์แวร์ และ Outsourcing Solution เป็นต้น
โดยกองทุนหลักจะเน้นลงทุนหุ้นประมาณ 30 - 50 บริษัท แต่ละตัวมีน้ำหนักระหว่าง 1 - 5% โดยเปลี่ยนและปรับน้ำหนักการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ หากหุ้นที่ลงทุนขาดทุนเกิน 15% จะปรับน้ำหนักโดยการเพิ่มหรือ Cut Loss พร้อมทั้งหาโอกาสลงทุนในหุ้น IPO ที่มีรูปแบบการทำธุรกิจหรือมีความแข็งแกร่งในธุรกิจนั้นๆ อีกทั้งยังกระจายการลงทุนไปยังหลากหลายประเทศอีกด้วย***
ส่วนตัวอย่างบริษัทที่กองทุนเข้าไปลงทุน เช่น Visa Inc. แพลตฟอร์มประมวลผลธุรกรรมทางการเงิน ผู้อยู่เบื้องหลังการชำระเงินผ่านบัตรเดบิตและเครดิตทั่วโลก โดยมีปริมาณการชำระเงินผ่าน Visa กว่า 8.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี เชื่อมโยงกับเครือข่ายร้านค้าชั้นนำกว่า 40 ล้านราย ใน 200 ประเทศทั่วโลก
โดย Goldman Sachs คาดว่ากำไรสุทธิของบริษัท Visa จะเติบโตเฉลี่ย 18% ในระหว่างปี 2654 – 2566 อีกบริษัทคือ Kaspi.kz "Super App" ที่ใหญ่ที่สุดในคาซัคสถาน ให้บริการชำระค่าบริการต่างๆ Online shopping และกู้เงินผ่านแอปพลิเคชัน โดยมีผู้ใช้งานแอคทีฟถึง 10 ล้านคนต่อเดือน จากประชากรคาซัคสถานที่มี 19 ล้านคน (ข้อมูล ณ มิถุนายน 2564)*****
พิเศษสำหรับลูกค้าที่มียอดเงินลงทุนในกองทุน TFINTECH ระหว่างวันที่ 21 - 29 กันยายน 2564 ตั้งแต่ 20 - 29.99 ล้านบาท จะได้รับทองคำหนัก 2 สลึง และยอดเงินลงทุนตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป รับทองคำหนัก 1 บาท (1 ท่าน ต่อ 1 สิทธิ์)
ทั้งนี้ กองทุนเปิด TFINTECH อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนรวม โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนที่ได้เปิดเผยไว้ที่ www.tiscoasset.com
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds