21 กันยายน 2564 : วิจัยกรุงศรี รายงานว่า ทางการเลื่อนเปิดกรุงเทพฯ ขณะที่การผ่อนคลายระยะต่อไปยังต้องระมัดระวังและอาจขึ้นอยู่กับอัตราการเสียชีวิตที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติระยะที่ 2 เบื้องต้นเตรียมเปิดเพิ่มอีก 4 จังหวัดพื้นที่นำร่องในวันที่ 1 ตุลาคม ได้แก่ เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า) ชลบุรี (พัทยา สัตหีบ อ.บางละมุง) เพชรบุรี (ชะอำ) และประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน)
ส่วนกรุงเทพฯ อาจต้องเลื่อนออกไปจนกว่าจำนวนประชากรในพื้นที่จะได้รับวัคซีน 2 โดส ตามเกณฑ์ที่ 70% ของประชากร ล่าสุด ณ วันที่ 19 กันยายน มีอัตราการฉีดที่ 40.7% แม้ทางการจะทยอยเปิดพื้นที่นำร่องเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ก็ตาม แต่ความกังวลและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการติดเชื้อ COVID-19 ในไทยจะยังสูงอยู่อย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2564 หลังการทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุม
ในกรณีฐาน การฉีดวัคซีนจำนวนมากในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า คาดว่าจะช่วยควบคุมการติดเชื้อได้ระดับหนึ่ง ภายใต้ข้อสมมติว่า ฉีดวัคซีนเฉลี่ยวันละ 460,000 โดส และประสิทธิภาพของวัคซีนต่อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าอยู่ที่ 50% วิจัยกรุงศรีประเมินว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว แต่มีแนวโน้มลดลงอย่างช้าๆ ตลอดช่วงที่เหลือของปี โดยคาดว่าในช่วงสิ้นปีจะมีผู้ติดเชื้อประมาณ 2,500 รายต่อวัน และเสียชีวิตราว 40 รายต่อวัน
ดังนั้น มาตรการควบคุมการระบาดจึงยังมีความจำเป็น การผ่อนคลายมาตรการควรดำเนินการไปทีละขั้นตอนแต่ยังคงข้อจำกัดบางประการด้วยความระมัดระวังตลอดทั้งปี ทั้งนี้ อาจมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมเพิ่มเติมในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้หรือเป็นช่วงที่จำนวนผู้เสียชีวิตลดลงต่ำกว่า 150 รายต่อวัน
สำหรับกรณีเลวร้าย แม้จะฉีดวัคซีนได้ 90 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอาจยังอยู่ในระดับสูงตลอดช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากวัคซีนมีประสิทธิภาพต่ำและผ่อนคลายมาตรการควบคุมเร็วเกินไป ในกรณีนี้อาจเห็นการกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง
ทางการเตรียมออกมาตรการดึงดูดนั
1. กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง 2. กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่
ในระยะเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา การระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้
โดยวิจัยกรุงศรี คาดว่าจำนวนนั
อีกทั้งหลายประเทศสำคัญได้ปรั