กรุงเทพฯ 13 กันยายน 2564 : นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคอาเซียนมาอย่างต่อเนื่องในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อวางรากฐานของการเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคให้แข็งแกร่ง ทำให้ปัจจุบันกรุงศรีมีเครือข่ายและธุรกิจที่ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาค รวมถึงทำให้กรุงศรีสามารถนำพาโอกาสใหม่ๆในการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตให้กับลูกค้าของกรุงศรีในภูมิภาคอาเซียนด้วย
นอกจากนี้แล้ว กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ และสร้างการเติบโตในอาเซียนเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางปี 2564-2566 ซึ่งกรุงศรีได้วางเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนกำไรจากต่างประเทศอยู่ที่ 10% ของกำไรสุทธิทั้งหมดภายในปี 2566”
“จุดแข็งและถือเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญของกรุงศรี คือ การมี มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ที่มีเครือข่ายแข็งแกร่งในกว่า 50 ประเทศ เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยสนับสนุน ทำให้กรุงศรีเป็นสถาบันการเงินไทยแห่งเดียวที่มีเครือข่ายในอาเซียนมากที่สุด มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และศักยภาพในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับโลก ตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินของลูกค้าทั้งในประเทศไทย ในภูมิภาคอาเซียน และในระดับโลกได้เป็นอย่างดี” นายไพโรจน์ กล่าวเพิ่มเติม
"จากสถานการณ์โควิดนี้ ส่งผลกระทบต่อธนาคารเช่นกัน จากเดิมที่มีการจัดให้จับคู่ธุรกิจแบบ ตัวต่อตัว (face to face) ก็ปรับเปลี่ยนเป็นการเจรจาทางออนไลน์แทน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เป็นปัญหามากนักในการที่จะขยายธุรกิจร่วมกัน โดยมีการทำธุรกิจระหว่างไทยและอาเซียนประมาณ 200 คู่"
ปัจจุบัน กรุงศรีดำเนินธุรกิจและมีเครือข่ายแข็งแกร่งที่ให้บริการครอบคลุม 4 ประเทศในอาเซียน ทั้งในรูปแบบสาขา สำนักงานผู้แทน ธนาคารท้องถิ่น ผู้ให้บริการทางการเงินท้องถิ่น ประกอบด้วย สาขาของธนาคารในเวียงจันทน์ ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย และสถาบันการเงินจุลภาคที่ไม่รับเงินฝาก กรุงศรี จำกัด ใน สปป.ลาว ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศกัมพูชา ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยในประเทศฟิลิปปินส์ และสำนักงานตัวแทนในเมียนมา
ในส่วนนี้ ยังไม่รวมเครือข่ายและธนาคารพันธมิตรของ MUFG และล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กรุงศรีได้บรรลุข้อตกลงกับ Saigon-Hanoi Commercial Joint Stock Bank (“SHB”) ธนาคารพาณิชย์ร่วมทุนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ในประเทศเวียดนาม ในการซื้อและรับโอนเงินทุนก่อตั้ง (Charter Capital) 100% ของบริษัท SHBank Finance Company Limited (“SHB Finance”) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อเพื่อรายย่อย 10 อันดับแรกของประเทศเวียดนาม ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังเร่งขยายธุรกิจในกัมพูชาให้เป็นธนาคารพาณิชย์ อย่างเต็มรูปแบบ โดยปัจจุบันมีพอร์ทสินเชื่อประมาณ 1,300 ล้านบาท พอร์ตเงินฝาก 739 ล้านบาท และมี 177 สาขา เพื่อรองรับการบริการต่อประชาชนกัมพูชามากยิ่งขึ้น ส่วนทางประเทศฟิลิปปินส์ มีการขยายสินเชื่อรายย่อยด้านไฟแนนซ์ และมีอัตราการเติบโตที่เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยจากนี้ไปมีเป้าหมายพัฒนาแพรตฟอร์ม ด้านดิจิทัล เพื่อขยายช่องทางบริการผ่านดิจิทัลให้มากยิ่งขึ้น โดยผ่าน 300 สาขา
ทั้งนี้ ด้วยเครือข่ายและความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจของ MUFG ก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศและสร้างโอกาสให้ลูกค้ากรุงศรีขยายธุรกิจในภูมิภาคได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ การเปิดโอกาสให้มีการพบปะเจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการในอาเซียนผ่านเครือข่ายและบริการจับคู่ธุรกิจ (business matching) การเชื่อมต่อโครงข่ายธุรกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศ
การพัฒนาโซลูชั่นทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อให้การดำเนินธุรกิจในต่างประเทศของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงการทำหน้าที่เป็นพันธมิตรที่ให้บริการข้อมูล ความรู้และคำปรึกษาทางการเงินแบบครบวงจร ในส่วนของลูกค้ารายย่อยนั้น กรุงศรีได้มีการพัฒนาระบบธุรกรรมการชำระเงินรองรับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลอีกด้วย
“กรุงศรียังคงมองหาโอกาสการขยายธุรกิจในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำการเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค มุ่งสู่เป้าหมายการเป็น “สถาบันการเงินไทยที่เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า พร้อมเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน” นายไพโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย