27 สิงหาคม 2564 : นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นจากปีที่แล้ว แต่การเติบโตที่สูงในปีนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานต่ำในปีก่อน หากพ้นจากช่วงที่เศรษฐกิจโลกได้รับประโยชน์จากฐานต่ำไปแล้ว เศรษฐกิจอาจมีการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงและมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงโตต่ำนักลงทุนจึงต้องมองหาทางเลือกการลงทุนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตให้กับพอร์ตการลงทุน”
“หุ้นเติบโตสูงถือเป็นธีมการลงทุนที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก และมีแนวโน้มเติบโตได้อีกหลายเท่าจากปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของการเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลโกรท (KFGG) ที่ลงทุนในกองทุนหลักคือ Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund และได้รับ Morningstar Rating 5 ดาว*”
“กองทุนหลักมีผลงานที่โดดเด่นมาก ด้วยการบริหารสไตล์ Baillie Gifford ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้มุมมองการลงทุนที่แตกต่างโดยเน้นการลงทุนระยะยาวเลือกลงทุนเพียงไม่กี่หลักทรัพย์ที่เชื่อมั่นในศักยภาพและจะเป็นตัวขับเคลื่อนผลตอบแทนของตลาดในระยะยาว และไม่เน้นการซื้อขายตามตลาดโดยปัจจุบันถือการลงทุนในแต่ละหลักทรัพย์เฉลี่ย 9 ปี”
หัวใจสำคัญคือกระบวนการคัดสรรหุ้น ซึ่งจะไม่ยึดติดกับภูมิภาคอุตสาหกรรม และดัชนีชี้วัด กรอบการเลือกก็อย่างเช่น รายได้ของธุรกิจนั้นสามารถปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าภายใน 5 ปีข้างหน้าหรือไม่ อะไรคือความได้เปรียบในการแข่งขัน การบริหารจัดการเงินทุนเป็นอย่างไร รวมถึงอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ระดับราคามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 เท่าหรือมากกว่านั้น เป็นต้น
ทำให้หุ้นที่ผู้จัดการกองทุนคัดสรรเข้ามาในพอร์ตนั้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่นเหนือคู่แข่ง และเป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแรงขับเคลื่อนของกระแสโลกาภิวัฒน์และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เช่น ธีม E-commerce ธีมเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ ธีมรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และธีมนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์
ตัวอย่างหลักทรัพย์ที่กองทุนหลักลงทุนเช่น Netflix เป็นผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง ที่สมาชิกสามารถรับชมซีรีย์โทรทัศน์ สารคดีและภาพยนตร์ต่างๆ ได้หลากหลายประเภท และหลากหลายภาษา Coupang บริษัทด้าน E-commerce ที่มีสมญานามว่าเป็น Amazon แห่งเกาหลีใต้ Adyen แพลตฟอร์มที่ช่วยให้การชำระเงินเป็นเรื่องง่ายและสร้างการเติบโตทั่วโลก เป็นต้น
“กองทุน KFGG เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสร้างความเติบโตให้กับพอร์ตการลงทุนระยะยาวผ่านการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นเติบโตสูงทั่วโลกสามารถรับความผันผวนในระยะสั้นได้ และมีระยะเวลาการลงทุนในระยะกลางถึงยาวเพื่อให้หลักทรัพย์ในพอร์ตมีเวลาสร้างการเติบโตได้เป็นไปตามเป้าหมาย” นางสุภาพร กล่าว