26 สิงหาคม 2564 : นายอาชวิณ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานภายใต้การบริหารงานสำหรับไตรมาสที่ 2/2564 จากงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 2564 – 30 มิ.ย. 2564 และ/หรือกำไรสะสม จำนวน 5 กองทุน โดยกำหนดจ่ายพร้อมกันในวันที่ 3 ก.ย. 2564 นี้ รวมจำนวนกว่า 3,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงานให้เช่าจำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์ม ออฟฟิศ (SIRIP) ลงทุนในกรรมสิทธิ์ในโครงการอาคารสิริภิญโญ จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0550 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 28 รวมจ่ายเงินปันผล 3.7581 บาทต่อหน่วย (ตั้งแต่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2557)
กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์ม ออฟฟิศ (POPF) ลงทุนในอาคารสมัชชาวานิช 2 อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และอาคารบางนา ทาวเวอร์ กำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2470 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 41 รวมจ่ายเงินปันผล 10.4728 บาทต่อหน่วย (ตั้งแต่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2554)
และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) ลงทุนในสิทธิการเช่าของอาคารสำนักงานให้เช่าบริเวณเขตปทุมวัน จ่ายปันผลในอัตรา 0.2450 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 35 รวมจ่ายเงินปันผล 8.0376 (ตั้งแต่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556)
นอกจากนี้ ยังมีกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงงานและคลังสินค้า จำนวน 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) ลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าบริเวณเขตพื้นที่ EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) กองทุนมีผลประกอบการที่มั่นคงต่อเนื่อง
อีกทั้งราคาของหุ้นของกองทุนค่อนข้างมีเสถียรภาพในสภาวะตลาดหุ้นปัจจุบันที่มีความผันผวนสูง โดยกำหนดจ่ายปันผลในอัตรา 0.1750 บาท/หน่วย นับเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 28 รวมจ่ายเงินปันผล 5.2595 บาทต่อหน่วย (ตั้งแต่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2557)
และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ลงทุนในทรัพย์สินด้านโทรคมนาคม โดยรายได้หลักของกองทุนมาจากสัญญาให้เช่าทรัพย์สินเสาโทรคมนาคม และสายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable) ระยะยาว กับกลุ่มบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ซึ่งทางกองทุนได้รับค่าเช่าครบถ้วนและต่อเนื่องมาตลอด
ส่งผลให้มีผลประกอบการที่ดีสม่ำเสมอ เห็นได้จากการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่ 0.2610 บาทต่อหน่วย ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 7 ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่ได้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนตามที่คาดการณ์ไว้ สำหรับการจ่ายปันผลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 30 รวมจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 7.4304 บาทต่อหน่วย (ตั้งแต่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557)
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPF) ที่ลงทุนในโรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา กองทุนรวมไม่ได้มีการจ่ายเงินปันผลหรือลดทุนสำหรับผลประกอบการในไตรมาสนี้ เนื่องจากธุรกิจโรงแรมในไตรมาส 2 เป็นช่วง Low Season ทางบริษัทจัดการฯ จะนำผลประกอบการของไตรมาสที่ 2/2564 รวมกับผลประกอบการในไตรมาส 3/2564 มาพิจารณาจ่ายปันผลหรือลดทุนพร้อมกันต่อไป