6 ตุลาคม 2559 : นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (6 ต.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ บวกนำอยู่ตลาดเดียวตลาดอื่นๆ มีลบให้เห็น ตัวช่วยให้ Dow Jones ออกมาดี มีทั้งตัวเลข ISM (service) สูงขึ้นจาก 51.4 จุด เป็น 57.1 จุด ในเดือนที่ผ่านมาคำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงาน เพิ่ม 0.2% จากเดือนก่อนเช่นกัน
ขณะที่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน หรือ ADP ตัวเลขเพิ่มขึ้น 1.54 แสนตำแหน่งแต่ต่ำกว่าที่คาดไว้ ซึ่งผลจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีแบบนี้ตอกย้ำว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวดี นอกจากเหนือจากตลาดหุ้นกับค่าเงินดอลล่าร์ด้วย ในทางตรงกันข้ามจะเป็นลบต่อราคาพันธบัตรกับทองคำ เพราะทำให้โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุมเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น (Fed Fund Rate Implied Probabilities เดือน พ.ย. ขึ้นจาก 21% เป็น 23.6% ในวันที่ผ่านมา) ขณะที่ราคาน้ำมันดิบได้ผลบวกจากตัวเลข Stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายงานโดย EIA ว่าลดลง 3.0 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน
นอกจากนี้ ผู้ผลิตน้ำมัน (OPEC กับ Non-OPEC) จะมีการประชุม (Informal Meeting) ในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นคือ 12 ต.ค. คาดว่าจะเพื่อตัดสินใจโควต้าการผลิตก่อนที่จะประชุมจริง 30 พ.ย.นี้ บล.KTBST มองว่าผลประโยชน์ที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะได้จากการลดกำลังการผลิต จะมากกว่าที่จะผลิตเท่าเดิมแต่ได้ราคาที่ต่ำกว่ามาก โอกาสที่การประชุมครั้งนี้จะสำเร็จจึงมีค่อนข้างสูง เป็นบวกต่อหุ้นผู้ผลิตน้ำมันโดยตรง รวมไปถึงผู้ผลิตปิโตรเคมีที่จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมัน และภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มดีขึ้นด้วย
ส่วนประเด็นอื่นอย่างกรณีค่าปรับ Deutsche Bank เป็นบวกเพียงชั่วคราวเพราะยังมีอีกหลายกรณีที่ธนาคารอาจถูกฟ้อง ส่วนข่าวที่ว่าธนาคารบางแห่งอย่าง BOJ-ECB กำลังพิจาราณาลด QE ลงนั้นกำลังถูกจับตาเพราะมีผลต่อกระแสเงินลงทุนและระดับดอกเบี้ยในตลาดโดยตรง ทำให้การประชุม ECB 20 ต.ค. นี้ ตลาดจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ปัจจัยของไทยเองภาพเศรษฐกิจยังดี รัฐบาลหนุนทั้งมาตรการใหม่ๆ และเร่งใช้จ่ายภาครัฐ แต่แรงซื้อของนักลงทุน 2 กลุ่ม (ต่างชาติ+กองทุนฯ ยังเอาแน่นอนไม่ได้ เลยทำให้ตลาดดูไร้ทิศทาง การลงทุนในช่วงนี้ จึงต้องระมัดระวัง และในวันพรุ่งนี้เอง จะมีการรายงานตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ด้วยซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยในวันจันทร์ กลยุทธ์การลงทุน จากการตลาดช่วงสั้นๆ ยังมีความผันผวนสูงจากการซื้อ-ขาย ของนักลงทุนกลุ่มใหญ่คือ สถาบันฯและนักลงทุนต่างประเทศที่ยังไม่แน่นอน
ในเชิงกลยุทธ์ บล.KTBST ยังแนะนำให้ลงทุนในกรอบเวลาสั้นๆ และควรพิจารณาจากหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหรือหุ้นที่มีการประเมินกำไรไตรมาสที่ 3 ประกอบกันไปด้วย หุ้นที่น่าสนใจวันนี้สำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้น ได้แก่ PTTEP , BANPU , BDMS , LOXLEY , PSTC , LPH"มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,500-1,515 จุด