21 มิถุนายน 2564 : นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวงจะเปิดขายหน่วยลงทุนให้ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน เพื่อการออม (B-CHINESSF) และ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลธีมเมติกออพพอร์ทูนิตี้เพื่อการออม (B-GTOSSF) ระหว่างวันที่ 22-29 มิถุนายน 2564 นี้ เพื่อผู้ลงทุนที่มองหากองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ขยายโอกาสการเติบโตของผลตอบแทนในระยะยาวด้วยการลงทุนกับธุรกิจที่ใช่
“ในปัจจุบันผู้ลงทุนไทย เริ่มมีความสนใจขยายโอกาสไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในประเทศที่มีความโดดเด่นด้านพัฒนาการทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี รวมถึงการลงทุนในบริษัทที่รู้จักปรับตัว หรือสร้างความโดดเด่นในกลุ่มธุรกิจนั้นได้ กองทุนบัวหลวงจึงมองว่า การเปิดตัวกองทุน SSF น้องใหม่ 2 กองทุนนี้ จะช่วยเติมเต็มความต้องการของผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้” นายวศิน กล่าว
สำหรับ กองทุน B-CHINESSF ลงทุนในหุ้นจีนทั่วโลก มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี เหมาะกับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นจีนในทุกตลาดทั่วโลก เนื่องจากมองเห็นศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งของการใช้จ่ายในจีน รวมถึงศักยภาพของบริษัทจีนที่ขยายตัวไปบุกตลาดทั่วโลก และต้องการโอกาสรับผลตอบแทนระหว่างทาง
ส่วนกองทุน B-GTOSSF เน้นลงทุนในบริษัทผู้นำแต่ละอุตสาหกรรมที่คิดค้นและได้ประโยชน์จากนวัตกรรม ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เหมาะกับ ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนแบบกระจายลงทุนหลากหลายประเทศ หลากหลายกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโต เพราะกองทุนนี้ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวกับนวัตกรรมในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก
หากผู้ลงทุนต้องการลงทุนโดยเน้นไปที่หุ้นจีนเลย เพราะเห็นโอกาสการเติบโตของจีนทั้งภายในประเทศ และการออกไปเติบโตในต่างประเทศ ก็เลือก B-CHINESSF ถ้าต้องการลงทุนกระจายหลากหลายอุตสาหกรรม และลงทุนได้ทั่วโลก ก็เลือก B-GTOSSF หรือถ้าต้องการลงทุนทั้ง 2 กองทุน ก็สามารถทำได้เช่นกัน
“การออมเงินก่อนใช้จ่าย เปรียบเหมือนการดูแลสุขภาพทางการเงิน และจะดีมากขึ้นไปอีก หากเรานำเงินออมบางส่วนไปลงทุนด้วย ก็เหมือนการออกกำลังกาย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้สุขภาพทางการเงินแข็งแรงยิ่งขึ้น เพราะการลงทุนจะช่วยเพิ่มโอกาสไปถึงเป้าหมายทางการเงินในอนาคตได้” นายวศิน กล่าว
ทั้งนี้ การลงทุนอาศัย 3 ปัจจัยสำคัญ คือ เงิน ผลตอบแทน และเวลา โดยเรื่องเวลาสำคัญที่สุด ถ้าลงทุนระยะยาว ใส่จำนวนเงินลงทุนเพิ่มขึ้น พร้อมยืดตัวไปลงทุนในต่างประเทศกับธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวโน้มโลกด้วย จะยิ่งเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น สนับสนุนให้สุขภาพทางการเงินในอนาคตมั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ลงทุนเริ่มต้นเสริมความแข็งแกร่งของสุขภาพการเงินได้ง่ายๆ กับ B-CHINESSF และ B-GTOSSF ของกองทุนบัวหลวง
ผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุน B-CHINESSF และ B-GTOSSF หรือติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและคู่มือการลงทุนได้ที่ กองทุนบัวหลวง โทร. 0 2674 6488 กด 8 หรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ได้แก่ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส บมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บจ.หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรี บจ.หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา และ บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)
สำหรับผู้ลงทุนที่มีบัญชีกองทุนรวมประหยัดภาษี ของกองทุนบัวหลวงกับธนาคารกรุงเทพอยู่แล้ว สามารถซื้อหน่วยลงทุนในช่วง IPO ผ่านบริการ Bangkok Bank Mobile Banking ได้ตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 16.00 น.